แม้ว่าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ จะแถลงว่า การมาของเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก "USS NIMITZ" ซึ่งเข้าเทียบท่าอยู่ที่แหลมฉบังของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24-29 เมษายน 2566 เพื่อเป็นเจ้าภาพต้อนรับ "การเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตของสหรัฐฯ กับไทย" และเพื่อสร้าง "โอกาสในการกระชับความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯ-ไทย และสร้างความก้าวหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร" แต่รายงานของ Radio Free Asia สื่อที่สหรัฐฯ สนับสนุนมองว่า เรือมีการกลับหัวใกล้แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเวียดนาม โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน
นอกจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS NIMITZ ยังมีกองเรือจู่โจมที่ร่วมเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ ประกอบด้วย เรือลาดตระเวนติดจรวดนำวิถี USS Bunker Hill, เรือพิฆาตติดจรวดนำวิถี USS Decatur และ USS Wayne E. Meyer โดยมีพลเรือตรี คริสโตเฟอร์ สวีนนีย์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเรือ ตามข้อมูลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า เรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือจู่โจม ได้เข้าร่วมในการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ในทะเลจีนตะวันออก ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2566 และมีรายงานการพบเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้บริเวณน่านน้ำทางตะวันออกของไต้หวัน ในช่วงเดียวกับที่เรือบรรทุกเครื่องบินของจีน "ชานตง" (Shandong) ของจีนกำลังซ้อมรบในบริเวณเดียวกัน
เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz และกองเรือจู่โจม เดินทางถึงประเทศไทยในวันจันทร์ หลังจากเพิ่งเดินทางข้ามทะเลจีนใต้และหันหัวกลับในเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม (EEZ) ซึ่ง Radio Free Asia ระบุว่าเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และยังอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ "MarineTraffic" ที่แสดงให้เห็น USS Nimitz ส่งสัญญาณระบบแจ้งตัวตนอัตโนมัติ หรือ AIS (automatic identification system) ระหว่างอยู่ในเขตน่านน้ำของไทย เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันอาทิตย์ ตามเวลามาตรฐานสากล ก่อนที่จะเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เรือลำนี้ส่งสัญญาณ AIS ก่อนเข้าสู่น่านน้ำประเทศไทย คือ ขณะอยู่ที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566
ข้อมูลจากแหล่งข่าวกรองเปิด (OSINT) ระบุว่า การที่ USS Nimitz ได้หันหัวกลับใน EEZ ของเวียดนามเมื่อวันเสาร์และมุ่งตรงมายังประเทศไทย โดยไม่ทราบจุดประสงค์ที่ชัดเจน แต่มีรายงานวิเคราะห์อ้างอิงจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมว่า จุดที่หันหัวกลับ "อยู่ใกล้แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเวียดนาม" และส่วนที่เรียกว่า "แวนการ์ด แบงค์" (Vanguard Bank) ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งระหว่างเวียดนามกับจีน ขณะที่สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ไม่ค่อยจะราบรื่นนักในพื้นที่บริเวณใกล้ทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน
ข้อมูลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า USS NIMITZ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อน เริ่มเข้าประจำการเมื่อปี ค.ศ.1975 และมีระยะเวลาทำการ 50 ปี โดยจะปลดระวางในปี 2026 ซึ่งปัจจุบันยังคงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเรือรบที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยระวางมากกว่า 100,000 ตัน สามารถบรรทุกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ได้ถึง 90 ลำ และมีเจ้าหน้าที่ประจำการราว 6,000 คน