โควิดพุ่งในมาเลเซีย ผู้เชี่ยวชาญเตือน ได้เวลาใส่หน้ากากอนามัยอีกแล้ว

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นถึง 87.5% ในช่วงสองสัปดาห์จนถึงวันที่ 8 เมษายน  ส่วนตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ก็พุ่งขึ้น 30.5% ขณะที่ยอดผู้เสียจากโควิดพุ่งขึ้น 25%  และจนถึงวันที่ 8 เมษายน ก็นับจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศได้มากกว่า 13,000 ราย 

สมาคมโรงพยาบาลเอกชนในมาเลเซียจึงออกแถลงการณ์ เรียกร้องประชาชนให้กลับมาใส่หน้ากากอนามัยตามสถานที่ผู้คนพลุกพล่าน และต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันเอาไว้อีก  เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ 

เมื่อไม่กี่วันก่อน  รัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซีย ก็เพิ่งออกมาเรียกร้องประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยตามสถานที่ผู้คนพลุกพล่าน ก่อนจะถึงเทศกาลฮารีรายอ ซึ่งเป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิม เทียบได้กับวันขึ้นปีใหม่  ทั้งยังเผยข้อมูลว่า ตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่ต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลในช่วงต้นเดือนเมษายน พุ่งขึ้น 17.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนแก่และคนที่ป่วยเป็นหลายโรคอยู่ก่อนแล้ว 
 

ปัจจุบัน คนมาเลเซียจะใส่หน้ากากอนามัยเฉพาะตอนที่ใช้บริการรถสาธารณะ และตามสถานพยาบาลทั่วไป รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อก็จะใส่หน้ากาก    

ด้านที่ปรึกษาองค์การสาธารณสุขมาเลเซีย ก็ย้ำเตือนว่า นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยแล้ว มาตรการอื่น เช่น การหลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนพลุกพล่าน  การตรวจหาเชื้อด้วยตนเอง และการกักตัวเองเมื่อรู้ว่าติดเชื้อ ก็ควรนำมาปฏิบัติเช่นกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง   

แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การสวมหน้ากากอนามัยควรถึงขั้นต้องออกมาเป็นกฎระเบียบบังคับใช้อีกหรือไม่   เขาบอกว่า ตอนนี้ ยังอยู่แค่ในระดับเป็นทางเลือก  แต่ก็ขอเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากาก  แม้สถานการณ์โควิดจะยังไม่ได้แย่เหมือนแต่ก่อน  แต่การสวมหน้ากากอนามัยไว้ก่อนคือดี