
การเคลื่อนไหวของแอปเปิลครั้งนี้สะท้อนถึงโอกาสการลงทุนที่สดใสในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ในขณะที่แอปเปิลกำลังพยายามเพิ่มยอดค้าปลีกของผลิตภัณฑ์ และการผลิตในท้องถิ่น
แอปเปิลพยายามมาโดยตลอดเพื่อเจาะตลาดอินเดีย ที่มีสมารท์โฟนราคาระดับต่ำถึงปานกลางของบริษัทต่าง ๆ เช่น ซัมซุง และ เสี่ยวหมี่ ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด และแอปเปิ้ลมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1% ในปี 2562 อย่างไรก็ตามในปี 2565 แอปเปิลสามารถส่งออกไอโฟนไปอินเดียเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปี 2564 นอกจากนี้แอปเปิลยังครองอันดับหนึ่งในกลุ่มสินค้าพรีเมียมของตลาด ที่จำหน่ายโทรศัพท์ราคาสูงเกิน 365 ดอลลาร์
แอปเปิลพยายามเพิ่มการผลิตสินค้าในอินเดีย เพื่อหาทางลดการพึ่งพาจีน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นฐานการผลิตสำคัญของไอโฟน แต่การผลิตในจีนหยุดชะงักในช่วงการระบาดของโควิด-19 และยังมีการประท้วงของคนงานในโรงงานผลิตไอโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเมืองเจิ้งโจวของจีน ที่ดำเนินการโดยบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ของไต้หวัน
และในปีนี้แอปเปิลปรับเปลี่ยนการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับอินเดียมากขึ้น หลังจากยอดขายออนไลน์ในอินเดียมีส่วนช่วยให้บริษัทมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสเดือนธ.ค.