
วันอังคาร (18 เมษายน 2566) ที่จะถึงนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเดินทางไปเยือนไอร์แลนด์เหนือ เพื่อร่วมพิธีรำลึก 25 ปี ของข้อตกลงสันติภาพในไอร์แลนด์เหนือ ที่มีชื่อว่า Good Friday Agreement (GFA) หรือ Belfast Agreement ที่ลงนามเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 1988 เพื่อยุติความรุนแรงอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในไอร์แลนด์เหนือ ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960
ความขัดแย้งเริ่มต้นจากชาวไอริชที่เป็นคาทอลิคและเป็นชนกลุ่มน้อย ต้องการให้ไอร์แลนด์เหนือรวมกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยแยกจากอังกฤษที่เป็นโปรเตสแตนท์ และความรุนแรงได้ถูกขับเคลื่อนโดย "กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์" (Irish Republic Army) หรือ IRA ที่ต่อสู้กับฝ่ายสหภาพ (Unionist) นำโดยชาวอังกฤษและชาวไอริช ที่สนับสนุนสหราชอาณาจักรจนกระทั่งมีการเจรจากันและนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง
แต่หลังจากนั้น มีการแยกตัวของสมาชิก IRA ไปตั้งกลุ่มใหม่ชื่อ "กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ชั่วคราว" (Provisional Irish Republic Army) หรือ PIRA ที่หัวรุนแรงและโหดร้าย ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคซินเฟน (Sinn Fein) พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายจัดในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ และเงินทุนสนับสนุนจากชาวไอริชในสาธารณรัฐไอร์แลนด์สหรัฐฯ และแคนาดา ทำให้ PIRA เหิมเกริมลงมือก่อการวินาศกรรม และปฏิบัติก่อการร้ายเต็มรูปแบบในไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นที่มาของ "ยุคแห่งปัญหา" (The Troubles)
"the Troubles" เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 30 ปี (1960-1990) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3,636 คน (เฉลี่ย 2 คนต่อสัปดาห์) บาดเจ็บอีกกว่า 30,000 คน และจากการประเมินยังพบว่า ในจำนวนประชากรเกือบ 1,700,000 คน มี 1 ใน 7 คน ที่มีประสบการณ์ตรงกับความรุนแรง แต่เมื่อมีการทำข้อตกลงสันติภาพ Good Friday Agreement ก็ถือเป็นกรณีตัวอย่างของ "กระบวนการสันติภาพ" ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่