svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ฝรั่งเศสประท้วงใหญ่ไม่พอใจแผนยืดอายุเกษียณ

16 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฝูงชนหลายล้านคน ออกมาประท้วงทั่วประเทศฝรั่งเศส หลังประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ดันแผนขึ้นอายุเกษียณจาก 62 เป็น 64 ท่ามกลางข้อโต้แย้ง มีแนวโน้มการประท้วงอาจยาวนานเป็นหลายสัปดาห์

รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของนายมาครง ได้ส่งผ่านเรื่องนี้ไปยังรัฐสภา  วอนขอให้ใช้อำนาจพิเศษตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้ปรับขึ้นอายุเกษียณ  ทำให้ผู้ใช้แรงงานในฝรั่งเศสต้องทนทำงานต่อไปจนถึงอายุ 64 ปี กว่าจะได้เงินบำเหน็จบำนาญ  แทนที่จะเป็น 62 ปี เช่นแต่ก่อน เพื่อยืดการจ่ายงบประมาณก้อนโตในส่วนนี้ออกไปก่อน เพราะมีผู้เกษียณจำนวนมากรอรับเงิน   

แต่ในทางกลับกัน  นายมาครงกลับต้องการให้เพิ่มงบใช้จ่ายทางทหาร ท่ามกลางสงครามในยูเครน  ซึ่งปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายตรงนี้ อยู่ที่ 1.9% ของตัวเลขจีดีพีฝรั่งเศส  ส่วนงบบำเหน็จบำนาญอยู่ที่ 14.5% ของจีดีพี  ถือว่า มากกว่าสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ที่ 7.5% และมากกว่าของเยอรมนี ซี่งอยู่ที่ 10.4%  

และเนื่องจากเสียงสนับสนุนในสภาเกี่ยวกับประเด็นนี้ ยังไม่ชัดเจน  ประธานาธิบดีมาครงจึงตัดสินใจใช้มาตรา 49 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ที่ให้รัฐบาลออกฎหมายได้เลยโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภา 

เรื่องที่เกิดขึ้น สร้างความไม่พอใจแก่สหภาพแรงงานและพรรคการเมืองกลุ่มซ้ายจัดและขวาจัด ก่อให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่   ผู้ประท้วงมุ่งหน้าไปยังจัตุรัส คองคอร์ด ใกล้รัฐสภา และเกิดการปะทะกับตำรวจ รวมถึงจุดไฟเผานั่งร้านต่างๆ  พวกเขามองว่า นายมาครงเป็นเผด็จการที่แตะต้องไม่ได้  

แกนนำสหภาพแรงงานยังบอกว่า จะชุมนุมประท้วงต่อไป และผละงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศโดยรวม ถ้าบรรดาข้าราชการพร้อมใจกันหยุดงาน  ชั้นเรียนก็จะไม่มีครูสอนหนังสือ  ภาคการคมนาคมขนส่งหยุดชะงัก  ขยะก็คงกองท่วมตามท้องถนนในกรุงปารีส  ซึ่งทางคนเก็บขยะก็ยืนยัน จะไม่ทำงานจนกว่า นายมาครง จะยอมถอยแผนการนี้ 

 

และตอนนี้ นายมาครงกำลังเผชิญคำขู่จากทั้งพรรคซ้ายจัดและขวาจัด  ที่จะจัดโหวตไม่ไว้วางใจ ถ้าสำเร็จ  ก็จะบีบให้รัฐบาลชุดนี้ ต้องลาออก และแผนปรับแก้อายุเกษียณก็ถูกคว่ำลงทั้งหมด  แต่ก็ถูกต่อต้านจาก สส.จำนวนมากจากพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ยังครองเสียงกึ่งหนึ่งในสภา

เนื่องจากผู้คนในยุคนี้ มีชีวิตยืนยาวขึ้น ประชากรผู้สูงวัยจึงขยายตัวมากขึ้นด้วย  จำนวนผู้ใช้แรงงานวัยหนุ่มสาว ที่ต้องจ่ายภาษีเข้างบบำเหน็จบำนาญจึงมีน้อยลง  ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ฝรั่งเศสมีสัดส่วนผู้ใช้แรงงานต่อผู้เกษียณอยู่ที่ 4 ต่อ 1  แต่เมื่อปี 2020 ตัวเลขนี้อยู่ที่ 1.7 ต่อ 1 และคาดว่า จะหล่นไปอยู่ที่ 1.5 ต่อ 1 ในช่วงสิบปีข้างหน้า 

logoline