"ฟ่าน ปิงปิง" หวนคืนพรมแดงออสการ์ครั้งที่ 95
"ฟ่าน ปิงปิง" หวนคืนพรมแดงในงานประกาศรางวัลออสการ์ที่ลอส แองเจลิส หลังหายหน้าไปเพราะถูกรัฐบาลจีนลงดาบเรื่องหลีกเลี่ยงภาษี ที่ทำให้เธอต้องจ่ายภาษีย้อนหลังและค่าปรับรวมกว่า 4,200 ล้านบาท
งานประกาศผลรางวัล Academy Awards หรือที่รู้จักในชื่อ "ออสการ์" (Oscar) จัดโดยสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (the Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ครั้งที่ 95 ถือเป็นการหวนคืนพรมแดงของ ฟ่าน ปิงปิง นักแสดงสาวชาวจีน ที่ถูกรัฐบาลจีนลงดาบด้วยการสั่งปรับเงิน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,200 ล้านบาท) ที่เป็นการจ่ายภาษีย้อนหลัง 42 ล้านดอลลาร์ และค่าปรับ 86 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2561
นับตั้งแต่เกิดเรื่อง ฟ่าน ปิงปิง ได้หายหน้าไปไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณชนอีกเลย และมีข่าวว่าเธอถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศจีนอย่างจริงจัง ตามวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งคาดว่าเธอถูกสอบสวนที่มณฑลเจียงซูไม่ไกลจากนครเซี่ยงไฮ้
สาเหตุที่ทำให้ ฟ่าน ปิงปิง สามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีมาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็คือการทำสัญญา "หยิน-หยาง" (Yin-Yang Contracts) โดยเธอกับผู้ว่าจ้างจะตกลงทำสัญญากัน 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งจะตกลงเรื่องรายละเอียดของผลประโยชน์ที่แท้จริงที่จะถูกปกปิดเป็นความลับ อีกฉบับหนึ่งจะระบุผลประโยชน์เพียงส่วนหนึ่งหรือต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อรายงานต่อรัฐบาลจีน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ฟ่าน ปิงปิง ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอุตสาหกรรมบันเทิงของจีนเป็นอย่างมาก ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลภายใต้การกุมอำนาจของผู้นำรุ่นที่ 5 ของจีน อย่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จริงจังและเด็ดขาดมากแค่ไหน กับประเด็นปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ
แต่การ "คัมแบ็ค" งานออสการ์ปีนี้ถือเป็นการทวงคืนบัลลังก์ "ตัวแม่แห่งพรมแดง" หลังจากเพิ่งปรากฎตัวในงาน "เทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน" (Berlin Film Festival) เดือนที่แล้ว เพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใหม่ "Green Night"
การ "คัมแบ็ค" พรมแดงของ ฟ่าน ปิงปิง ยังประจวบเหมาะกับการที่ภาพยนตร์แนวอินดี้ไซไฟเรื่อง "Anything Everywhere All at Once" สร้างประวัติศาสตร์จากการที่นักแสดงเชื้อสายเอเชีย 2 คน คว้ารางวัลในปีเดียวกัน โดย มิเชล โหย่ว นักแสดงหญิงชาวมาเลเซีย คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และ คี ฮุย ควน หรือ โจนาธาน คี ฮุย นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม คว้ารางวัลสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ขณะที่ แดเนียล ควาน และแดเนียล ไชเนอร์ท ร่วมกันคว้ารางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
ส่วนความสำเร็จของ Anything Everywhere All at Once คือการกวาดรางวัลทั้งหมด 7 สาขา จากที่เข้าชิงทั้งหมด 11 สาขา ได้แก่
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
- บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
- ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
