สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า มาร์ค มัฟฟ์ลีย์ วัย 40 ปีจากเมืองแลนสฟอร์ด รัฐเพนซิลเวเนีย นำกระเป๋าเดินทางที่มีอุปกรณ์ระเบิดซุกซ่อนอยู่เข้าเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบินไปเมืองแซนฟอร์ด รัฐฟลอริดา ที่สนามบินนานาชาติลีไฮ แวลลีย์ในรัฐฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.)
แต่มีสัญญาณเตือนความปลอดภัยดังขึ้น และเจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยในกระเป๋า จึงประกาศเรียกให้เขาติดต่อแผนกรักษาความปลอดภัยของสนามบิน แต่เขาไม่ปรากฏตัว และหนีออกจากสนามบินไป ต่อมาเจ้าหน้าที่เอฟบีไอตามจับกุมตัวเขาได้ที่บ้านพักในเมืองแลนสฟอร์ดในคืนวันจันทร์ และนายมัฟฟ์ลีย์จะขึ้นศาลนัดแรกในวันพฤหัสบดี
เอกสารสำนวนฟ้อง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า วัตถุต้องสงสัยเป็นวัสดุทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นิ้ว หุ้มด้วยกระดาษคล้ายขี้ผึ้ง และห่อด้วยพลาสติกใส
และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระเบิดได้เอ็กซเรย์กระเป๋า และพบว่า วัตถุต้องสงสัยบรรจุผงละเอียดเหมือนกับที่ใช้ในการผลิตดอกไม้ไฟ ซึ่งเชื่อว่าสามารถติดไฟจากความร้อนและการเสียดสี และจะสร้างความเสี่ยงอย่างมากต่อเครื่องบินและผู้โดยสาร และยังมีฟิวส์ติดกับวัตถุทรงกลม นอกจากนี้ในกระเป๋ายังมีแก๊สบิวเทนกระป๋อง ไฟแช็ก ท่อที่มีเศษผงสีขาว สายไฟกับแบตเตอรี สว่านไร้สายกับแบตเตอรี และเต้ารับ GFCI ที่มีวงจรตัดไฟฟ้าอีก 2 ตัวพันด้วยเทปสีดำ เจ้าหน้าที่สรุปว่า เป็นอุปกรณ์ระเบิดที่ทำงานได้
สนามบินต้องปิดทำการนานกว่า 2 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบและจัดการกับวัตถุต้องสงสัย ซึ่งรวมถึง ทีมเก็บกู้ระเบิด 2 ทีม