20 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้า ในการเตรียมงาน การจัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงของนักแสดงชื่อดัง โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พร้อมคณะ เพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ประกอบด้วย โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อ “OneMan And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” โดยมีระยะทางว่ายไป-กลับ ประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างตัวเมืองนครพนม ไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น
ถึงแม้จะมีกระแสดราม่า เกี่ยวกับการจัดงานที่หลายคนเป็นห่วง ในความสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และความปลอดภัย แต่ “โตโน่” ยังคงยืนยันความมั่นใจ ว่า ไม่เป็นอุปสรรคใดๆทั้งสิ้น ในการว่ายน้ำข้ามโขง ยิ่งเป็นความท้าทายที่จะทำกิจกรรมนี้ให้สำเร็จ เป้าหมายคือ การช่วยเหลือแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานหนักตลอดเวลา
ล่าสุดทางด้าน โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ นายอารมณ์ เวียงด้าน ประธานชมรมนกเป็ดน้ำโขง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่วมกับสมาชิกดำเนินกิจกรรมทางน้ำ ด้วยการลอยน้ำโขงเพื่อสุขภาพ หรือวารีบำบัดมานานนับปี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองคณะได้ร่วมกันลงพื้นที่ริมฝั่งน้ำโขง บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อคำแดง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมร่วมกันเก็บขยะสิ่งปฏิกูลริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อเป็นการสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึกให้ชาวนครพนม รวมถึงประชาชน นักท่องเที่ยว เห็นความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาขยะ ที่ห่วงจะกระทบต่อระบบนิเวศน์ ในอนาคต พร้อมวอนช่วยกันดูแลอนุรักษ์แหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงแม่น้ำโขงที่เป็นสายน้ำแห่งชีวิต เพื่อความอุดมสมบูรณ์
ในการลงพื้นที่ของ โตโน่ ศิลปินชื่อดังครั้งนี้ ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างเข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ที่สำคัญ คือ กำลังใจสำคัญจากนางเอกสาว ณิชา ณัฏฐณิชา แฟนสาว ที่เดินทางมาให้กำลังใจไม่ห่าง พร้อมกล่าวว่า พร้อมให้กำลังใจ และชื่นชมความสวยงามของน้ำโขง และภูมิใจที่ได้ร่วมกิจกรรม ซึ่งวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ทาง นางเอกสาวณิชา จะได้ร่วมกิจกรรมรำบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะมีการปล่อยตัวโตโน่ เริ่มกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงตามกำหนดการที่วางไว้
ด้าน โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เปิดเผยว่า มีความพร้อมมาก ถึงแม้จะมีกระแสดราม่าต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป้าหมายสำคัญคือ การทำกิจกรรมให้สำเร็จ เพื่อช่วยแพทย์พยาบาล ที่ต้องทำงานเหนื่อยกว่าตนอีกเยอะ สำหรับเรื่องสภาพน้ำโขง สภาพลมฟ้าอากาศ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีความกังวล เชื่อมั่นไม่มีอุปสรรคในการว่ายน้ำ ส่วนร่างกายฟิตเต็มที่ อีกปัญหาสำคัญนอกจากเป้าหมายการช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน เป็นกำลังใจให้แพทย์ พยาบาล ตนยังต้องการให้ทุกคนเห็นความสำคัญของแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงแม่น้ำโขงที่เป็นสายน้ำแห่งชีวิต ซึ่งปัจจุบันหลายคนอาจมองข้าม สำคัญที่สุดคือปัญหาขยะ อยากให้ทุกคน ทั้งประชาชน นักท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลแก้ไข ไม่ให้กระทบในระยะยาว เพราะจะทำให้เกิดปัญหาระบบนิเวศน์ ฝากให้ทุกคนเอาใจใส่กับการอนุรักษ์แหล่งน้ำลำคลองไม่ทิ้งขยะลงแหล่งน้ำ
ส่วน นายจีรวัฒน์ ณรงค์กิจพาณิชย์ อายุ 63 ปี ตัวแทนชมรมนกเป็ดน้ำโขงนครพนม ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับกิจกรรมลอยน้ำโขงเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมว่ายน้ำโขงของพระเอกหนุ่มโตโน่ ถือเป็นเรื่องดี ที่ได้ทำเพื่อการกุศลช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ที่สำคัญยังเป็นการจัดกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐ เป็นการร่วมสมทบทุนจากผู้ใจบุญ ร่วมมือร่วมใจกัน อีกทั้งเป็นการสร้างชื่อเสียง กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ให้ จ.นครพนม อีกด้วย
ส่วนสภาพน้ำปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในฐานะตนเป็นตัวแทนของชมรมนกเป็ดน้ำโขงนครพนม ที่มีการจัดกิจกรรมลอยน้ำโขงมานานหลายปี เพื่อเป็นกีฬาทางเลือกสร้างสุขภาพวารีบำบัด สามารถลอยน้ำโขงได้ทุกเพศทุกวัย จากประสบการณ์ถือว่าไม่มีอันตราย ไม่มีความเสี่ยง ยิ่ง โตโน่ มีความพร้อมเรื่องความฟิตของร่างกาย และเป็นการว่ายน้ำโขงตามกระแสน้ำยิ่งไม่น่าห่วง ส่วนเรื่องสภาพอากาศยืนยันไม่เป็นอุปสรรคปัญหา ถึงแม้จะเริ่มมีอากาศหนาวเย็น เนื่องจากธรรมชาติของน้ำโขง หากเกิดอากาศหนาวเย็น ในสภาพน้ำจะมีความอุ่น จึงไม่ห่วงเรื่องเป็นตะคริวในน้ำ อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจ และสนับสนุนให้กิจกรรมลุล่วงไปด้วยดี โดยทางทีมงานชมรมนกเป็ดน้ำจะร่วมกิจกรรมตลอดทั้งวัน และว่ายน้ำสร้างสีสันไปกับโตโน่ในส่วนของพื้นที่ฝั่งไทย โดยไม่ได้ร่วมว่ายข้ามไปยังฝั่งประเทศลาว
ทั้งนี้ ในสภาพอากาศของ จ.นครพนม มีอุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง อากาศเริ่มหนาวเย็น และมีลมแรงพัดเข้าฝั่งไทย จะไม่เป็นอุปสรรคถ้าโตโน่ว่ายล่องไปตามกระแสน้ำ และเป็นการช่วยให้ว่ายได้เร็วขึ้น ปัญหาจะมีในตอนที่โตโน่ว่ายข้ามไปยังฝั่งประเทศลาว เพราะนอกจากว่ายโต้กระแสน้ำแล้ว ยังเจอลมพัดแรงเข้าหาฝั่ง ดังนั้นโตโน่ต้องใช้แรงว่ายน้ำเพื่อต้านกระแสลมมากกว่าปกติ ส่วนการว่ายกลับมายังฝั่งไทยในช่วงบ่าย ไม่มีปัญหาเพราะโตโน่แทบไม่ต้องออกแรงใดๆ แค่ว่ายลอยคอมาตามกระแส ประกอบกับกระแสลมช่วยดันให้ลอยเข้าหาฝั่งได้เร็วขึ้น จะมีปัญหาในช่วงที่ว่ยจากฝั่งไทยไปยังฝั่งลาวเท่านั้น
พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล รายงานจากจ.นครพนม