สรุปดราม่า “มิ้วกี้ ไปรยา” – “แดนนี่” หลังฟาดกันเดือดปมปีนเข้าบ้าน

เกิดเป็นประเด็นเดือดขึ้นมาอีกครั้งสำหรับอดีตคู่รักคู่ร้างสุดแซ่บอย่าง “มิ้วกี้ ไปรยา” และ "แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง" ได้ออกมาแฉกันชุดใหญ่ทั้งเรื่องฝ่ายชายมีคนใหม่ก่อน หรือแม้กระทั่งเรื่องไม่ยอมหย่า

จนกระทั่งล่าสุดได้เกิดดราม่าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อแม่ของ “มิ้วกี้ ไปรยา” ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กพร้อมน้ำตา เล่าเหตุการณอดีตลูกเขยบุกเข้ามาปีนเข้ามาที่บ้านพักเพื่อมาหาลูก และมีปากเสียงกันเนื่องจากฝ่ายชายคิดว่าถูกกีดกันให้เจอลูกชาย

“แม่ของมิวกี้” เล่าว่า ตนเองได้มีปากเสียงกับแดนนี่มา เพราะอดีตลูกได้บุกมาที่บ้านเพื่อจะเอาลูกไปส่งโรงเรียน แต่ทางตนเองไม่ยอมไม่ให้ไป เพราะน้องไม่สบาย และขอให้ทำตามที่ตกลงกันไว้ ยืนยันว่าทางบ้านไม่ได้กีดกันไม่ให้เขาได้เจอลูก แต่แดนนี่ก็แล้วแต่อารมณ์ที่จะมาตนเองไม่ได้และบางครั้งก็พูดจาไม่ดีใส่ตนเอง  โดยเฉพาะครั้งนี้ที่แดนนี่ ซึ่งตนเองมองว่าเขามีอาการเมาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มากดกริ่งรัว ๆ ทำให้ลูกตื่น ซึ่งวันนี้น้องไม่สบาย

“แม่ของมิวกี้” เล่าต่อว่าขณะที่ตนเองกำลังลงมาจากบ้านเพราะเพิ่งไปหยิบกุญแจบ้านมา ก็เห็นว่าแดนนี่กำลังปีนบ้านเข้ามาแล้ว ซึ่งตนเองรู้สึกตกใจมากเพราะอยู่กับหลานเพียงแค่ 2 คน ซึ่งตนเองได้พยายามบอกแดนนี่ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ แต่เจ้าตัวกลับไม่ฟังพร้อมถามกลับด้วยว่า “ทำไมอะ” ซึ่งคนภายนอกจะมองว่าเขาเป็นคนสุภาพ แต่จริง ๆ เวลาเขาคุยกับตนเองเขาไม่เคยพูดดี

“วันนี้ที่ออกมาพูดก็เพราะสุดทนจริง ๆ ยอมรับว่าเราเสียงดังใส่เขา บอกให้เขาเอาน้องลง เพราะเขาจะอุ้มน้องออกไปขึ้นรถ เขาก็พูดว่าทำไมเหรอ บ้านหลังนี้ยังเป็นชื่อเขาอยู่เลย แล้วเขาก็อัดคลิปไว้ด้วย ตอนที่พูดว่า กาเนสไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้จะดูแลลูกเอง น่าสงสารจัง ลูกจะได้มีการศึกษาดี ๆ เขาดูถูกแม่ตลอด คืออยู่กับมิ้วกี้แล้วลูกจะไม่ได้รับการศึกษาดี ๆ เหรอ มิ้วกี้ดูแลลูกดีตลอด ถึงเขาจะออกไปทำงานเขาก็มั่นใจว่าคุณแม่ดูแลน้องได้”

“ส่วนที่ต้องออกมาไลฟ์ครั้งนี้เพราะตอนที่มีปากเสียงกันเขาได้เอาโทรศัพท์มาอัดคลิปตอนที่แม่เสียงดังใส่เขา แต่ตอนที่อยู่ในบ้านเขากลับไม่อัด เลยคิดว่าถ้าเราเงียบเขาจะเอาคลิปแค่ตรงที่เขาอัดไปลง แล้วจะทำให้เรื่องมันเสียหายทั้งตัวแม่ มิ้วกี้ และจะทำให้คนเข้าใจแม่ผิดด้วย เขามาด้วยอารมณ์ร้อนเราก็ห่วงความปลอดภัยของคนในบ้าน บ้านเรามีแต่ผู้หญิง จึงต้องออกมาพูดแบบนี้”

ทั้งนี้ในระหว่างที่ไลฟ์อยู่นั้น “มิวกี้ ไปรยา” ซึ่งอยู่ที่ต่างประเทศได้เข้าไปร่วมคอมเมนต์ด้วยว่า อยากกลับไปตอนนี้เลย, หลายสิ่งที่ทำ ยังไงน้องก็รู้ค่ะ, ความจริงคือความจริงค่ะ ช้าหรือเร็วน้องก็ต้องรู้ค่ะ, ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้เลย, สุดจะทนกับคนแบบนี้

ด้าน "แดนนี่ ดานิเอล” ก็ได้ออกมาไลฟ์เคลียร์ประเด็นร้อนดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า "พยายามติดต่ออดีตแม่ยายมาตลอด จนต้องพิมพ์หาอดีตภรรยา ว่าช่วยติดต่อให้หน่อย เพราะอยากคุยกับลูกบ้าง และก็ได้คุยกับลูกว่าวันที่เกิดเรื่องจะไปรับเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งพอถึงวันเกิดเรื่อง ก็มารับลูก แต่เรียกแล้วก็ยังเงียบ จนในที่สุดลูกก็ออกมาซึ่งยืนอยู่ในรั้วบ้าน ซึ่งลูกก็บอกว่าลูกไม่สบาย แต่เมื่อวานช่วงเย็นได้คุยกันว่าตนจะไปส่ง แต่ตอนเช้าลูกไม่สบาย ซึ่งในตอนนั้นก็เป็นห่วงลูกเพราะลูกก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร และการที่รั้วมาอยู่กั้นแค่นี้ และบ้านก็คือบ้านของผมที่ให้ลูกอยู่ตอนนี้ คุณจะข้ามไปหาเขาไหม? เขามายืนเท้าเปล่าใส่ชุดนอนและบอกว่าไม่สบายคิดง่ายๆ เวลาผมลืมกุญแจบ้านผมก็ปีนประจำ เป็นเรื่องปกติมากที่ผมปีนรั้วเข้าไป แต่ ณ ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป คือมีกุญแจแต่เข้าไม่ได้เพราะกุญแจบ้านทั้งหลังโดนเปลี่ยนออกหมด และเมื่อถามว่าทำไมผมต้องอัดคลิป? ซึ่งคลิปนี้จะไม่มีใครได้เห็น แต่ถ้าวันนึง อาจจะมีประโยชน์เกิดขึ้นบ้าง กับสิ่งที่ผมได้อัดไว้ เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ก็ต้องบอกว่าขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะไม่สามารถเปิดให้ใครดูได้"

"พร้อมย้อนเรื่องราวถึงบทสัมภาษณ์ของมิ้วกี้ อดีตภรรยาว่า เขาต้องการหย่าแต่ผมไม่ยอมหย่า เขาหาทนายเตรียมไว้แล้วแต่ผมบ่ายเบี่ยง ผมไม่อยากให้ไปถึงตรงนั้น เพราะอะไรรู้ไหม อันนี้เป็นที่แรกที่ผมบอกเลยนะ ถ้าหลายคนพอจะจับเซ้นส์ออกน่าจะพอเข้าใจว่าเพราะอะไรถ้าสมมติว่าต้องฟ้องกัน ภรรยาหรือแม่ฟ้อง สามีหรือพ่อฟ้อง มีทนาย A ทนาย B มันคือการสู้กัน ก็ต้องเอาชนะกัน แต่ผมโชคดีที่มีทนายคนกลาง มาช่วยไกล่เกลี่ย ผมบอกตามตรงว่า คุณคือฮีโร่ที่มาช่วยเราทั้งคู่ และครอบครัวเรา ก็มานั่งคุยและตกลงกันได้ โดยที่ไม่ต้องสู้กัน อันนั้นคือสถานะนึงที่มันเกิดขึ้น และเหมือนว่าทุกอย่างจะเคลียร์ ที่ผมสามารถมาเจอลูกได้ และพาไปกินข้าวได้บ้าง ก็เป็นช่วงโมเมนต์ที่มีความสุขมาก พร้อมเผยต่อว่า ไม่ว่าวันนี้ครอบครัวจะอยู่ในสถานะไหน ผมก็ยังถือเป็นหัวหน้าครอบครัว ยังเป็นพ่อของลูกอยู่ เพราะฉะนั้นผมไม่มีวันทำร้ายใครใดๆ"