จากลูกชื่อ ‘แตงโม’ ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเพราะรัก ‘แม่ภนิดา’

ยังคงเป็นกระแสหลักในช่วงนี้ ที่แฟนข่าวให้ความสนใจของผู้คนในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีการเสียชีวิตของนางเอกสาว “แตงโม นิดา” ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นชินกับชื่อเก่าของเธอคือ “ภัทรธิดา”

“แตงโม” เคยเผยที่มาของการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อจริงของเธอเอาไว้ หากจะย้อนกลับไปในปี 2559 ก่อนที่นางเอกสาวคนดังคนี้จะตัดสินใจเปลี่ยนชื่อจาก “ภัทรธิดา” มาใช้ “นิดา” เจ้าตัวเคยอธิบายผ่านไอจีส่วนตัวที่ตอนนั้นใช้ชื่อว่า Nida P.veerapong (แต่ปัจจุบันใช้ชื่อ @melonp.official) ว่าสาเหตุที่เปลี่ยนมาใช้ “นิดา” เพราะเป็นชื่อท้ายของคุณแม่ “ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” เพื่อเวลาคนเรียกชื่อ “นิดา” จะได้มีความรู้สึกว่าชื่อนี้เป็นชื่อส่วนหนึ่งของผู้ให้กำเนิด

“สุขสันต์วันเกิด คุณภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ที่รักของน้อง ดวงใจของน้อง คุณแม่คนสวย ดวงตาของคุณแม่สวยมาก รูปนี้คงบอกได้ชัดเจน (แต่ดูแอบเจ้าชู้เบาๆ) เพราะคุณแม่ดูมีเสน่ห์มากทั้งๆ ที่ไม่ได้ยิ้ม (ไม่แปลกใจ ทำไมพี่โสถึงแพ้ทาง 55555) น้องดีใจมากที่ช่วงระยะหลังของชีวิตเรา เราได้มีโอกาสเจอกันมากขึ้น ได้ดูแลคุณแม่มากขึ้น น้องมีความสุขมากที่ได้ทำหน้าที่นี้ เพราะก่อนหน้านี้มีคนอาสาทำแทนอยู่นาน

 

น้องรักคุณแม่มาก การที่เด็กผู้หญิงสักคน เติบโตมาอย่างมั่นคงกับคุณพ่อ ซึ่งเป็นสิ่งดี แต่ไม่ได้หมายความว่า เด็กคนนั้นจะขาดแม่ได้ ความโหยหา ความคิดถึงลึกๆ แล้ว มันมีอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่ว่าเรากดมันไว้ ตอนนี้..เมื่อเราเปิดใจหากัน เข้าใจกันและกัน กำแพงต่างๆ อุปสรรครอบด้านต่างๆ ก็หมดลง ความสุขจนอิ่มล้นก็เข้ามาแทนที่ระหว่างเรา ความโหยหาของเด็กน้อยก็ไม่มีอีกต่อไป ขอบคุณพระเจ้า ที่ขีดเส้นทางให้เราแบบนี้ เพื่อวันนึงเราจะรู้ซึ้งถึงความรักของแม่-ลูกอย่างแท้จริง รักษาสุขภาพตัวเองดีๆ นะคะ ไม่ห่วงเรื่องไหนนอกจากเรื่องนี้อีกแล้ว มีทุกอย่างแต่ไม่มีสุขภาพที่ดี มันก็เท่านั้น สู้มีแค่บางอย่าง แต่สุขภาพกาย-ใจดีไม่ได้

ตั้งแต่เล็กจนโต น้องกับคุณพ่ออยู่ด้วยกัน ตัวติดกันมาตลอดจนเหมือนเป็นคนเดียวกัน คุณพ่อคือส่วนหนึ่งของน้อง และมาถึงวันนี้ ช่วงหลายปีหลังที่เราทั้งคู่ได้ดูแลใกล้ชิดกัน แต่ในความทรงจำของใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่ชัดเจนนัก น้องอยากให้คุณแม่รู้สึกว่าคุณแม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของน้องเป็นชีวิตน้องเช่นกัน

 

จากนี้ต่อไป เวลาที่เหลืออีกครึ่งชีวิต น้องขอใช้ชื่อท้ายของคุณแม่ คือ “นิดา” เพื่อเวลาที่น้องได้ยินคนเรียกหรือคุณแม่และคนที่เรียกนั้น จะได้รู้ที่มาของชื่อนี้ ก็คือชื่อคุณแม่ “ภนิดา” ผู้ให้กำเนิดน้องมานั่นเอง และนี่คือของขวัญที่น้องตั้งใจที่จะมอบให้คุณแม่ในวันเกิดปีนี้ค่ะ พระเจ้าอวยพรนะคะ จาก…นิดา #ถึงคุณแม่ผู้ไม่เปิดเผยชื่อไอจี

 

ประมาณปี 2564  นักแสดงสาวคนดัง “แตงโม” เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการใช้ชื่อใหม่ “นิดา” และ "ภัทรธิดา" ของเธออีกครั้งผ่าน รายการไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า

“กลับมาใช้ชื่อภัทรธิดา ตามคำแนะนำของแม่ มดดำ คชาภา ซึ่งพี่มดดำบอกว่าตั้งแต่ใช้ชื่อนิดามีอะไรดีในชีวิตบ้างไหม อะไรแบบนี้ จริงๆ ก็มีแต่ไม่ได้บอก คนก็ไม่คุ้นกับชื่อนิดา จริงๆ แล้วโมก็ไม่ค่อยอินในชื่อนิดา เพราะเป็นชื่อท้ายของคุณแม่

 

แค่อยากเอาชื่อของคุณแม่มาใช้ให้ชื่นใจเฉยๆ แต่ว่าขึ้นเครดิตในละครหรือต่างๆ ก็ยังแฮปปี้ เป็น ภัทรธิดาอยู่เหมือนเดิม แม่มดดำก็บอกว่า อะโอเคต่อไปนี้ก็กลับมาใช้ชื่อภัทรธิดาเหมือนเดิมดีกว่านะ ต่อไปนี้ก็เลิกเลยชื่อนิดา มีแต่เรื่องผู้ชายมาให้ปวดหัวตลอดเลย ก็เลยอะโอเคค่ะ แม่หนูกลับมาใช้ภัทรธิดาเหมือนเดิมค่ะแม่ ทั้งนี้ ก็ไม่ซีเรียสว่าจะเรียกว่า นิดา หรือภัทรธิดานะคะ”

ขอขอบคุณที่มาภาพและข้อมูลจาก @ไนน์เอ็นเตอร์เทน, @melonp.official, @sirayootyotin

 

 

ขณะที่โลกโซเชียลเผยความรัก ความอบอุ่นจาก คุณพ่อโสภณ “ผู้พร้อมตายเพื่อลูกสาว แตงโม”

นี่คือคำพูดของ คุณพ่อ โสภณ พัชรวีระพงษ์ ที่พูดถึงลูกสาว แตง โมนิดา หลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในรายการ ที่นี่หมอชิต เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2550 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2550 แตงโม นิดา ขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานถ่ายละคร โดยขับรถโฟล์กสวาเกนเปิดประทุนบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง โดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย แต่เกิดหลับใน และหักหลบรถคันข้างหน้าจนเสียหลักพลิกคว่ำ และกระเด็นออกมานอกรถ

แตงโม เธอนั่งฟังและร้องไห้ตลอดการสัมภาษณ์ครั้งนี้ โดยมีคุณพ่อโสภณนั่งอยู่เคียงข้าง พร้อมเผยทุกความรู้สึกในฐานะของคนเป็นพ่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาว ในวันนั้น คุณพ่อแตงโม เล่าว่า 

"ทันที ที่ได้ข่าวว่าน้องโมประสบอุบัติเหตุ เราก็ตกใจ เข่าอ่อน พอไปถึงก็ทราบว่าอยู่นห้องผ่าตัดฉุกเฉิน เหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างเหมือนดูเขาเล่นละคร ที่เวลาหมอออกมาแล้ววิ่งไปถามหมอ เมื่อก่อนผมยังนึกว่าละครเว่อร์หรือเปล่า พอตอนเห็นหน้าแผลเขาเยอะมาก บวมมาก และรู้สึกว่าน้องโมเจ็บ เขาเจ็บมากๆ"

ในรายการยังได้เปิดเผยจดหมายที่ คุณพ่อโสภณ เขียนให้ลูกสาวเพื่อไว้เตือนขอว่า ให้เหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งการเขียนจดหมายให้ลูกสาวเป็นมุมน่ารักที่แตงโมเผยว่า 

 

"ปกติคุณพ่อจะเขียนจดหมายให้ในเทศกาลต่างๆ  และสิ่งที่แตงโมมีกำลังใจได้ทุกวันนี้จากจดหมายของคุณพ่อทุกฉบับ ไม่ว่าจะผ่านไปเท่าไหร่มันก็คือกำลังใจของโม โมสามารถอ่านได้"

โดยใจความของจดหมาย คุณพ่อโสภณ ที่เขียนถึงลูกสาวสุดที่รัก ระบุว่า 

"น้องโมลูกรัก ไม่ได้เขียนจดหมายให้อ่านนานแล้ว ปีนี้มีเรื่องสำคัญอยากจะเขียน เหมือนให้เป็นส่วนหนึ่งของ ของขวัญวันเกิดให้กับไปที่ลูกอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวเกินไปจนเกืบทำให้วันเกิดปีนี้ของคุณพ่อไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ ถ้าน้องเป็นอะไรไปคุณพ่อก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร หรืออยู่เพื่ออะไร อาจจะมีโศกนาฏกรรมซ้อนโศกนาฏกรรมไปแล้วก็ได้ โชคดีที่พระเจ้ายังรักเอ็นดูและให้การปกป้องรักษาเราเผลที่เกิดจึงมีเพียงแค่นี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทีไรยังหวาดเสียวแล้วนอนไม่หลับทุกครั้ง"

"อย่าลืมว่าเรามีกันสองคนพ่อลูก คุณพ่อจะคิดทำอะไรก็จะคิดทุกอย่างเพื่อลูกเสมอ ทุกวันนี้ใจเย็นมากๆ ทำตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นใครจะคอยดูแลน้อง ตัวน้องเองก็เช่นเดียวกันทำอะไรคิดถึงคุณพ่อบ้างเมื่อเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณพ่อจะอยู่อย่างไร ในความเป็นจริงปัญหาอะไรก็ตามไม่ถึงกับทำให้โลกแตกหรอก"

 

"หากไม่ได้ทำอะไรตอนนั้นปล่อยให้เวลาผ่านไปสักนิดปัญหาก็จะคลี่คลายลงไปเอง เวลาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาอะไรต่อมิอะไรได้อย่างมากมาย ทุกวันนี้คุณพ่ออายุเกืบหกสิบแล้ว พ่อต้องพยายามดูแลสุขภาพต่อสู้กับโรคภัยเพื่อจะได้อยู่กับน้องนานๆ น้องอายุยังน้อยต้องรู้จักดูแลตัวเอง คนที่จะไปก่อนต้องเป็นคุณพ่อจึงจะถูกต้อง"

 

นอกจากนี้ คุณพ่อโสภณ ยังทิ้งท้ายไว้อย่างประทับใจอีกว่า 

 

"พ่อเคยคิดถ้าเขาเป็นอะไรไปในวันนั้นจะอยู่จัดการอะไรให้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะตามเขาไป คิดไว้อย่างนั้น" 

 

ซึ่งเป็นประโยคที่สะท้อนและสอนใจผู้ชมในวันนั้นได้ดีว่า นี่เป็นความรู้สึกผูกผันของพ่อและลูก ความรักของครอบครัวที่มีต่อกัน และผู้ที่เป็นพ่อก็คงไม่พร้อมจะรับเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว