svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เริ่มวันนี้ ! ช.การช่างเปิดขายหุ้นกู้ 4 รุ่น ชูดอกเบี้ยสูงถึง 4.10% 

24 เมษายน 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ช.การช่างเปิดขายหุ้นกู้วันนี้ (25 เม.ย.) 4 รุ่น เพื่อชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน เดือนก.ค. 67 จำนวน 4 รุ่น วงเงินรวม 6,700 ล้านบาท 

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงไทยแจ้งว่า  บริษัท ช. การช่างเสนอขายหุ้นกู้ประเภท ไม่ด้อยสิทธิ์ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้กับประชนเป็นการทั่วไปในวันที่ 25-26 เม.ย. และวันที่ 29 เม.ย. มีทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย 

- ชุดที่ 1  อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40 % ต่อปี
- ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย  3.61 % ต่อปี 
- ชุดที่ 3 อายุ  7  ปี อัตราดอกเบี้ย  3.78% ต่อปี 
- ชุดที่ 4 อายุ 10  ปี อัตราดอกเบี้ย  4.10% ต่อปี 
 
โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้  ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนด ไถ่ถอนภายในเดือนก.ค. 67 จำนวน 4 รุ่น วงเงิน 6,700 ล้านบาท ประกอบด้วย

- CK245B ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 7  พ.ค. 67 จำนวน 1,200 ล้านบาท

- CK246A ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 7 มิ.ย. 67 จำนวน 500 ล้านบาท

- CK246B ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 28 มิ.ย. 67 จำนวน 3,500 ล้านบาท

- CK247A ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 8 ก.ค. 67 จำนวน 1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท
ช. การช่าง   ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” พร้อม ทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทและหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe) ในวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาทไถ่ถอนภายใน 10 ปีของบริษัท ที่ระดับ “A-” เช่นเดียวกัน 

โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืน หนี้หุ้นกู้ชุดเดิมบางส่วนหรือใช้เป็น เงินทุนในการขยายกิจการและเงินทุนหมุนเวียน อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศ ไทย ซึ่งมีความสามารถในการรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการที่มีความซับซ้อน รวมถึงมูลค่างานในมือจำนวนมาก

สำหรับอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการ ลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม สถานะเครดิตของบริษัทก็ลดทอนลงบางส่วนจากภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงและอัตรากำไรที่ค่อนข้างน้อยของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างท่ามกลางวงจรที่ผันผวนและการ แข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

บริษัทเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่สุด 3 รายที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยเมื่อพิจารณาในแง่ของรายได้และสินทรัพย์ บริษัทมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างที่หลากหลายครอบคลุมงานก่อสร้างทั่วไป ไปจนถึงงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง เช่น งานโครงการระบบขนส่งใต้ดินและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

โดยบริษัทมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ในการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่มีศักยภาพในการลงทุนระยะยาวในฐานะผู้ถือหุ้นหรือผู้รับสัมปทานในโครงการ ความสำเร็จของผลงานการก่อสร้างในอดีตและการมีฐานทุนขนาดใหญ่ช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลาย ๆ โครงการทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

ปัจจุบัน บริษัทได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) มูลค่า 1 แสนล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังถือหุ้น 20% ในบริษัทของเจ้าของโครงการนี้อีก
ด้วย

สำหรับงานรับเหมาก่อสร้างในมือที่แข็งแกร่งจะช่วยรักษาระดับรายได้ในระยะปานกลางมูลค่างานในมือของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 5.6 หมื่นล้านบาทในปี 2565 โดยโครงการในมือหลัก ๆ ได้แก่ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง
มูลค่า 7.8 หมื่นล้านบาท โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 และ 3 มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ส่วนต่อขยายฝั่งใต้) สัญญาที่ 1 และ 2 มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท

 ซึ่งทั้ง 3 โครงการนี้คิดเป็น 87% ของมูลค่างานในมือทั้งหมดในอนาคต มูลค่างานในมือของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับเกินกว่า 2 แสนล้านบาทในระยะสั้นถึงปานกลาง เนื่องจากคาดว่าโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐหลายโครงการจะเร่งเปิดประมูลและเซ็นสัญญาเมื่อมีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 หลังจากการก่อสร้างของภาครัฐนั้นหดตัวไป 4.6% ในปี 2566 เนื่องจากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

โครงการที่บริษัทคาดว่าจะได้รับการเซ็นสัญญางานก่อสร้างประกอบด้วย

- โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนต่อขยายฝั่งตะวันตก) มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท

- โครงการทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท

- โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ส่วนต่อขยายฝั่งใต้) งานระบบและซ่อมบำรุง มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท

ซึ่งโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นเหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือของบริษัทให้เกินกว่า 3 แสนล้านบาท มูลค่างานในมือที่แข็งแกร่งนี้จะช่วยให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้ในระยะปานกลาง

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ณ 31 ธันธาคม 2566 บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือน ข้างหน้าจำนวน 1.48 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 6.7 พันล้านบาท และเงินกู้จากสถาบันการเงินจำนวน 8.1 พันล้านบาทอีก

โดยบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.0 พันล้านบาทเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายการลงทุน เงินปันผลจ่ายและเงินลงทุนบริษัทในเครือ ขณะที่เงินทุนของบริษัทประกอบด้วยเงินสดจำนวน 7.8 พันล้านบาทและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 8.8 พันล้านบาท ทริสเรทติ้งประมาณการว่า
บริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ 1.4-1.5 พันล้านบาท 

ขณะที่หนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนส่วนใหญ่นั้นบริษัทจะชำระคืนด้วยเงินสดจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่  นอกจากนี้ บริษัทยังมีความยืดหยุ่นทางการเงินในการขายหุ้นบางส่วนใน BEM , CKP และTTW หากจำเป็น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงการถือหุ้นในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญในบริษัททั้ง 3 แห่งนี้ต่อไป

เริ่มวันนี้ ! ช.การช่างเปิดขายหุ้นกู้ 4 รุ่น ชูดอกเบี้ยสูงถึง 4.10% 
 

logoline