ช้อปกันหรือยัง ! วันนี้ (15 ก.พ.) เป็นวันสุดท้ายแล้วนะ สำหรับการซื้อสินค้าและบริการ เพื่อให้ได้รับสิทธิตามมาตรการ Easy E-Receipt ที่ให้สิทธิผู้เสียภาษีที่ซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2567 มาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 50,000 กับร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี ใบรับ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
ล่าสุด นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การตอบรับมาตรการ Easy E-Receipt ถือว่าคึกคักพอสมควร โดยมีร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการกว่า 9,000 ราย ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 10,000 ราย ส่วนตัวเลขการลดหย่อนภาษีจะเท่าไหร่นั้น ต้องรอสรุปตอนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 67 ซึ่งจะยื่นแบบแสดงรายการภาษีในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 68
Easy E-Receipt สามารถใช้จ่ายกับอะไรได้บ้าง
- ซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร สามารถนำมาหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้
สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วมโครงการ
1. ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
2. ค่าซื้อยาสูบ
3. ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
4. ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
5. ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
6. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้ได้รับสิทธิ Easy E-Receipt
ทั้งนี้ผู้ประกอบการนิติบุคคล (ไม่จำกัดรายได้) สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบบริการ e-Tax Invoice & e-Receipt โดยศึกษารายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://etax.rd.go.th
ส่วนผู้ประกอบการนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบริการ e-Tax Invoice by Email โดยศึกษารายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th/27659.html
Easy e-Receipt มีวิธีการขอคืนภาษีอย่างไร
เมื่อเข้าโครงการ Easy E-Receipt ยื่นลดหย่อนภาษีได้เมื่อไหร่
1.ยื่นภาษีในรูปแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ใกล้บ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2568
2.ยื่นภาษีรูปแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-8 เม.ย. 2568