svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ลุ้นหุ้นไทยไปต่อ ! ส่องหุ้นเด่นตัวไหนน่าเก็งกำไรระยะสั้นเช็กเลย

14 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกประเมินหุ้นไทยแกว่งขึ้น แรงหนุนจากวงจรดอกเบี้ยสหรัฐฯ ขาลง-ลุ้นการท่องเที่ยว-การบริโภคในประเทศฟื้นตัว เกาะติดยอดค้าปลีกสหรัฐฯ-จีดีพีจีน-ความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่องหุ้นเด่นตัวไหนน่าลงทุน

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Onlineว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า  “แกว่งขึ้น” ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,428 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,438 จุด แนวรับแรกที่  1,396 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,386 จุด  แรงหนุนจาก เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ภาพออกมาสลับอ่อนตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นวงจรดอกเบี้ยขาลง และการ Search for Yield (การหาผลตอบแทน)  เน้นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจโตเร่ง คาดรายงานเศรษฐกิจจีนจะยังส่งสัญญาณดี

ส่วนไทยความเชื่อมั่นพัฒนาการท่องเที่ยวและการบริโภคเริ่มดีขึ้น โดย  EPS ปี 23-24F ตลาดที่เริ่มเห็นภาพปรับขึ้นครั้งแรกในรอบหลายเดือน 1. กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง (เช่าซื้อ Growth โรงไฟฟ้า หนี้สูง หุ้นปันผล) MTC, BE8, GPSC, MINT ADVANC

2.กลุ่มสร้าง Upside เศรษฐกิจไทย AOT , CPALL, CPAXT, HMPRO, IVL, SCGP, DOHOME

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย

•  17 ม.ค. ยอดค้าปลีก ธ.ค. สหรัฐฯ คาด +0.4% m-m prev. +0.3% ผลผลิตอุตสาหกรรม ธ.ค. คาด -0.1%m-m  จากเดิม +0.2% 19 ม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U of Michigan) ม.ค. 24 (เบื้องต้น) คาด 68 จุด  จากเดิม 69.7 จุด

•  17 ม.ค. ติดตาม GDP จีนงวด 4Q23 คาด +5.2%  นอกจากนี้ติดตามดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีน ธ.ค.   ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม คาด +6.6%y-y จากเดิม +6.6%  ดัชนีภาคค้าปลีก คาด +8%y-y จากเดิม +10.1% การลงทุนในสินค้าคงทน คาด +2.9%y-y ytd และ การลงทุนภาคอสังหา คาด -9.5%y-y ytd จากเดิมอยู่ที่  -9.4% y-y ytd

•  18 ม.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ธ.ค. สหรัฐน คาด -9.3% m-m ยอดอนุญาตสร้างบ้านใหม่ คาด +0.9% m-m และ 19 ม.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ธ.ค. คาด +0.5%m-m

•  การประกาศงบบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ  US 4Q23F: กำไร 4Q23F อาทิ Goldman Sachs, Morgan Stanley, TSMC

•   ไทยติดตามสัญญาณชี้นำการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย อาทิ นักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ (ทุกวันอังคาร) การบริโภค และความชัดเจนวันประชุมคณะกรรมการ Digital Wallet ทีจะเป็น Upside เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่สัญญาณเริ่มเร่ง

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ

•  CPALL(TP76):  รับภาพบวกสัญญาณบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นเร่ง+อยู่โซนลงทุน

•  MTC (TP48) : รับภาพบวกสัญญาณฐานรากฟื้น+ความเชื่อมั่นวงจรดอกเบี้ยขาลง

•  MINT(TP40): ลุ้น Upside ได้ทั้งภาคท่องเที่ยวและวงจรดอกเบี้ยโลกขาลง

ลุ้นหุ้นไทยไปต่อ ! ส่องหุ้นเด่นตัวไหนน่าเก็งกำไรระยะสั้นเช็กเลย

 

 

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ากับ Nation Online ว่า  คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานดัชนี PPI ที่ -0.1%MoM ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.1%MoM ภายหลังจากรายงานพบว่า US Bond Yield รุ่นอายุ 2 ปีปรับลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 8 เดือน พร้อมกับ CME FED Watch ปรับเพิ่มน้ำหนักลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค. มาเป็น 77% จากก่อนหน้าที่ 60%

ขณะที่การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อื่นๆก็บ่งชี้เช่นเดียวกันว่านักลงทุน กำลังผ่อนคลายจากภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ สะท้อนผ่านราคาทองที่ปรับตัวขึ้น ค่าเงิน Dollar Index ที่แกว่งในแนวโน้มอ่อนค่าและเงินบาทที่แข็งค่า ปัจจัยข้างต้นจะเป็นตัวหนุนตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า

โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.4% MoM และวันเดียวกันก็จะมีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.1% MoM

วันพฤหัสบดีจะมีตัวเลขใบขออนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.47 ล้านใบอนุญาตและ 1.43 ล้านหลังคาเรือน และสุดท้ายในวันศุกร์จะมีการรายงานยอดขายบ้านมือสองและความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบันมิชิแกน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.8 ล้านหลังคาเรือนและ 69.3 หากตัวเลขเศรษฐกิจรายงานแล้วต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ประเมินว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกจากการคลายกังวลดอกเบี้ย

สำหรับการเลือกตั้งในไต้หวันพบว่า ไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิป ไตยก้าวหน้าได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งและชนะการเลือกตั้งติดต่อกัน 3 สมัยเป็นครั้งแรก ซึ่งจุดยืนของไล่ชิงเต๋อค่อนข้างชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการเข้ามาของจีน ดังนั้นความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศถือเป็นความเสี่ยง ที่รออยู่ในช่วงถัดไป

กรณีเกิดความไม่สงบระหว่างไต้หวันกับจีนอาจสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจมายังประเทศไทย เนื่องจากมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทยไปยังจีนคิดเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน 12%

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังไต้หวันคิดเป็นเพียง 2% ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนคิดเป็น 11.8% และไต้หวัน คิดเป็น 2.5% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าไทยในช่วง พ.ย. 23

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 – 1,430 จุด  กลยุทธ์การลงทุนยังมองดัชนีระดับปัจจุบันเป็นโอกาสสะสมด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เน้นที่กลุ่ม Domestic Play

- กลุ่มค้าปลีก (BJC ,CPALL,CPAXT, HMPRO)

- ท่องเที่ยว (AOT ,CENTEL , MINT)

- การเงิน (SAWAD, TIDLOR)

- ศูนย์การค้า (CPN)

 

 

logoline