svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เช็กราคาทองคำสัปดาห์นี้ไปต่อหรือไม่ !

06 สิงหาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาดีดปรับตัวเพิ่มขึ้น 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  แต่ในสัปดาห์นี้ทิศทางทองคำเป็นอย่างไรตามไปดูกันเลย

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด  เปิดเผยถึงทิศทางทองคำในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า เเนวโน้ม Sideway หรือ แกว่งตัวในกรอบออกด้านข้าง หลังจากในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นประมาณ  45 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 

- การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. เพื่อบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราเงินเฟ้อ อาจส่งผลต่อกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับระยะเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ 

- ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกเพิ่มมากขึ้นหลังจีนรายงานข้อมูล PMI ที่อ่อนแอบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ทั้งนี้ นักลงทุนจับตารัฐบาลกลางจีน ออกมาตรการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังรัฐบาลกลางจีนออก 20 ประการเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว รวมถึงการกระตุ้นการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ

เช็กราคาทองคำสัปดาห์นี้ไปต่อหรือไม่ !

- ทิศทางค่าเงินบาท ที่มีความผัวผวนสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทั้งนี้อาจมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาประกาศเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลร่วมทั้ง แนวนโยบายของรัฐบาลใหม่

ทั้งนี้ค่าเงินเอเชียอาจแข็งค่าขึ้น หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าตาม เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากตลาดหลัก ทรัพย์อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนามว่า

นักลงทุนต่างชาติได้เข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นเหล่านี้รวมกันเป็นเงินสุทธิ 3.48 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ทำสถิติเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ ราคาทองคำกลับมาแกว่งตัวในกรอบ แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้กรอบแนวรับด้านล่าง สะท้อนให้เห็นถึงแรงขายที่เบาลง

ขณะที่แรงซื้อเข้าพยุงราคาไว้เพิ่มขึ้น แนะนำเสี่ยงซื้อทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับตัวลงสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,930-1,929 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,945-1,972 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์    เพื่อรอเข้าซื้อใหม่ที่แนวรับถัดไป 1,911-1,893 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน มิ.ย.

logoline