นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,557 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,574จุด แนวรับแรกที่ 1,518 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,507จุด แรงหนุนหลักจากการเมืองไทยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลล่าสุด คาดความชัดเจนเกิดขึ้น 27 ก.ค. นี้
ส่วนปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศมองเป็นภาพบวก ทั้งการประชุมธนา คารกลางสหรัฐหรือเฟด ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ คาดว่าจะเห็นการปรับเพิ่มดอกเบี้ยครั้งท้าย ๆ ขณะที่หุ้นเด่นนั้นมองไว้ 3 กลุ่มประกอบด้วย
1. หุ้น Big Cap กลุ่มที่ปรับลงมาอยู่ในโซน Value (ADVANC, THCOM, GULF, STEC, PTT, BBL, CPALL, CPAXT)
2. China Plays (HANA, KCE, DOHOME, GLOBAL, SCGP)
3. High Growth (BE8, BBIK)
ปัจจัยต่างประเทศที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย
ส่วนในประเทศที่ต้องเกาะติด
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า ปัจจัยสำคัญในประเทศ ได้แก่ การเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค. ข้อมูลล่าสุดพรรคก้าวไกลได้ระบุว่าเปิดทางให้กับพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งล่าสุดพรรคเพื่อไทยระบุว่าอยู่ในระหว่างพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทย จับมือกับพรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคก้าวไกลจะไม่ได้อยู่ในการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากภูมิใจไทยระบุชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้หากวันที่ 27 ก.ค. ได้นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าตลาดหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวกระยะสั้น แต่ไม่ได้คาดหวัง Upside ที่เยอะสาเหตุเพราะเชื่อว่า SET INDEX รับรู้มาระดับหนึ่งสะท้อนผ่านราคาหุ้น ADVANC, GULF, SIRI ,SC, STEC และ SET ที่ปรับขึ้นมา 4.4% จากจุดต่ำสุด
สำหรับปัจจัยต่างประเทศปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลงสหรัฐหรือเฟด ทราบผลทางการในวันพฤหัสช่วงเช้าเวลาประเทศ ไทย CME FED Watch ให้น้ำหนัก 99.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
อย่างไรก็ดี มองว่าประเด็นด้านดอกเบี้ยไม่มีผลมากแต่ถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อแนวโน้มดอกเบี้ยและเงินเฟ้อจากนี้จะมีผลมากกว่า ซึ่งเราเชื่อว่ามีโอกาสที่ประธานเฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Dovish) อาจไม่ถึงขั้นประกาศลดดอกเบี้ย แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. เงินเฟ้อสหรัฐฯทั้งเงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อทั่วไปปรับลงต่อเนื่องและเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลงมาต่ำกว่าระดับ 5% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
2.เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยจนสูงกว่าระดับเงินเฟ้อและส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในรอบ 53 ปี
3. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอ อาทิ PMI , ใบขออนุญาตก่อสร้าง ปัจจัยติดตามอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย Bloomberg Consensus คาดการณ์รายงานในกรอบวันที่ 24 – 28 ส.ค. โดยคาดมูลค่าส่งออก (-6.3%YoY) นำเข้า (-7.5%YoY) ประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520 – 1,550 จุด
อย่างไรก็ตาม เชิงกลยุทธ์การลงทุนมองบวกกับตลาดระยะสั้นหนุนจากการเลือกนายกฯและคาดถึงการผ่อนคลายจากทางประธานเฟด Top Pick เลือก PTTEP (TP 162) CPALL (TP 72) AOT (TP 82) GULF (TP 58) BGRIM (TP 42)