svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

STARK เบี้ยวส่ง Special Audit ขยายเป็น 29 ก.ย. อ้างเหตุอายัดทรัพย์กระทบธุรกิจ

บริษัท STARK ขอเลื่อนกำหนดส่ง Special Audit เป็น 29 ก.ย.66 หลังตรวจสอบคืบหน้า 75% อ้าง ก.ล.ต. อายัดทรัพย์สินกระทบธุรกิจชะงัก ทำการตรวจสอบล่าช้า พร้อมขอให้พิจารณาผ่อนผันคำสั่ง ดำเนินธุรกรรมการเงินที่จำเป็นได้ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้ บรรเทาผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง

ในวันที่ 17 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดที่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARKจะต้องส่งผลการการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) โดยนายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการ บริษัท STARK แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทขอขยายระยะเวลาการส่งผลตรวจสอบออกไปเป็นครั้งที่สอง โดยได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 

ก. การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit)

ตามที่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “STARK”) ได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) และ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ขยายระยะเวลาการดำเนินการดังกล่าวจนถึงวันที่ 17 ก.ค. 66 ตามสิ่งที่อ้างถึง 1 นั้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัท และ บริษัทย่อยที่สำคัญทั้งหมด ตามสิ่งที่อ้างถึง 2 บริษัทจึงได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ต่อการดำเนินธุรกิจปกติของกลุ่มบริษัท แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะไม่ได้ทำให้กลุ่มบริษัทหยุดประกอบกิจการทั้งหมด แต่ก็ทำให้เกิดข้อจำกัดต่าง ๆ อีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าและลูกค้าของบริษัท

 

การสรรหาบุคลากร (ไม่ว่าจะเป็นกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในตำแหน่งสำคัญ) เพื่อเข้ามาบริหารกิจการ และแก้ไขปัญหาของกลุ่มบริษัท การลาออกของช่างฝีมือ (skilled-workers) การดำเนินธุรกิจของในกลุ่มบริษัทจึงขาดความต่อเนื่องและมีการหยุดชะงักลงอย่างมีนัยสำคัญกลุ่มบริษัทจึงต้องระดมบุคลากร และ ทรัพยากรเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากคำสั่งดังกล่าว ตลอดจนทุ่มเทเวลาและทรัพยากรในการจัดเตรียมข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ

ในการดำเนินการขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการผ่อนผัน ให้กลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงิน และ กิจการใดที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทต่อไปได้ ดังนี้ จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) การดำเนินการดังกล่าวจึงยังไม่แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขยายเพิ่มเติม โดยบริษัทได้จัดส่งรายงานความคืบหน้าให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทยังไม่สามารถสรุปผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ STARK ได้ โดยบริษัทกำลังดำเนินการตรวจสอบ รายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร ในส่วนที่เหลือเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งดำเนินการตรวจสอบไปแล้วประมาณ 75% (จากเดิม 60%) อย่างไรตาม บริษัทประสบปัญหาในการขอรายการเดินบัญชี (bank statement) จากบางธนาคาร เนื่องจากเอกสารที่ได้รับมาไม่มีรายละเอียดเพียงพอ ในการตรวจสอบข้อมูล ความเชื่อมโยงรายการระหว่างผู้รับเงินและผู้จ่ายเงิน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่า ธนาคารสามารถเปิดเผยข้อมูล ในรายการเดินบัญชีในรูปแบบเดียวเท่านั้น และ ไม่สามารถให้ข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ บริษัทและผู้สอบบัญชีจึงต้องใช้เวลาอย่างมาก ในการตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารดังกล่าว การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงบริษัทอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมเอกสารอื่น ๆ เพื่อประกอบการลงบัญชีเพิ่มเติม การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ

2. บริษัทย่อยรายบริษัท เฟ้ลปส์ดอดจ์ อนิเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (“PDITL”) ในส่วนของ PDITL นั้น แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายเพื่อให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบ แต่เนื่องจากมีปริมาณเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการตรวจสอบซึ่งการตรวจสอบเอกสารสำหรับปี 2565 มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 75 (จากเดิมร้อยละ 60) โดยบริษัทอยู่ระหว่างการทยอยจัดเตรียมและนำส่งเอกสารส่วนที่เหลือให้แก่ผู้สอบบัญชี ควบคู่ไปกับการรวบรวมชุดเอกสารประเภทเดียวกันสำหรับปี 2564ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเอกสารที่ใกล้เคียงกันและต้องใช้เวลาในการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ใกล้เคียงกัน การดำเนินการในส่วนนี้จึงยังไม่แล้วเสร็จ

3. บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด (“ADS”) และ บริษัท ไทย เคเบิ้ล อนิเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“TCI”) ในส่วนของ ADS และ TCI นั้น ผู้สอบบัญชีได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของ ADS แล้วประมาณร้อยละ 50 (จากเดิมร้อยละ 30) และตรวจสอบข้อมูลของ TCI แล้วประมาณ ร้อยละ 50 (จากเดิมร้อยละ 20) ของข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบธุรกรรมที่อาจผิดปกติใน TCI เพิ่มเติมผู้สอบบัญชีจึงอาจจะต้องขยายขอบเขตในการตรวจสอบเพิ่มเติม บริษัทจึงต้องจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการตรวจสอบดังกล่าว และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าว การดำเนินการในส่วนนี้ของ ADS และ TCI จึงยังไม่แล้วเสร็จ

ด้วยเหตุการณ์ถูกอายัดทรัพย์สิน ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อกลุ่มบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงต้องทุ่มเทบุคลากรและเวลาในการรวบรวมข้อมูลและเอกสารให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้บริษัทสามารถทำธุรกรรมที่จำเป็นได้ และเพื่อขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาผ่อนผันคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้กลุ่มบริษัทกลับมาประกอบธุรกิจเป็นปกติ และป้องกันปัญหาในเรื่องการหยุดชะงัก

หรือหยุดประกอบกิจการของกลุ่มบริษัทซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุก ๆ ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ เจ้าหนี้ ลูกค้า คู่ค้าต่าง ๆ และพนักงานของกลุ่มบริษัทอย่างประเมินค่าไม่ได้ บริษัทจึงไม่สามารถดำเนินการให้การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) เสร็จสิ้นภายในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566

ดังนี้ บริษัทจึงได้ยื่นหนังสือขอขยายระยะเวลา เพื่อดำเนินการในส่วนนี้เป็นครั้งที่สอง ไปจนถึงวันที่ 29 กันยายน 2566 (ตามสิ่งที่อ้างถึง 3) และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.

ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันว่าบริษัทมิได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อให้การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (Extended-scope Special Audit) เสร็จสิ้นโดยเร็ว และจะรายงานความคืบหน้าให้กับนักลงทุนทราบเป็นระยะ

ข. แนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์

ตามที่บริษัทได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของบริษัท กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ตามสิ่งที่อ้างถึง 4 บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทและกลุ่มบริษัทที่ถูกอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต.เนื่องจากการอายัดทรัพย์สิน บริษัทจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้ได้อย่างเต็มที่ และไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท

นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวย่อมเป็นการยากที่บริษัทจะดำเนินการเพิ่มทุนหรือพิจารณาหานักลงทุนรายใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัท และบริษัทยังอาจไม่สามารถที่จะยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายเพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ของบริษัทภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการได้อีกต่อไป

เพราะหากกลุ่มบริษัท ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัทมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นปกติ บริษัทย่อมไม่สามารถนำเสนอช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการได้ อย่างประสบความสำเร็จภายใต้การถูกอายัดทรัพย์สิน บริษัทจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องให้ความสำคัญในการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการผ่อนผันให้กลุ่มบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินและกิจการใดที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทต่อไปได้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแก้ไขกรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกรายบริษัท และกอบกู้กิจการของกลุ่มบริษัทเพื่อให้ยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ทั้งของบริษัท และบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก เพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่ามากกว่าศูนย์ และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติของบริษัทย่อย ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก และลดผลกระทบต่อพนักงานของกลุ่มบริษัทที่มีมากกว่าหนึ่งพันครอบครัว

โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบ ถึงแนวทางดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน และกำหนดเวลาของการดำเนินการดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทราบต่อไป เมื่อสถานการณ์ของบริษัทดีขึ้น