svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

โหวตนายกฯ รอบ 2 กระทบตลาดเงินมากแค่ไหน !

16 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักลงทุนจับตาการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ผ่าน-ไม่ผ่านมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาท กรุงศรีฯ คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 34.30-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐฯ -การเมืองในประเทศ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ Nation Online ว่า แนวโน้มทิศทางค่าเงินบาทตลาดคาดการณ์ไว้อยู่ว่า ถ้ายื่นโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 คนเดิม เงื่อนไขไม่เปลี่ยนแปลงก็น่าจะยากที่จะผ่านไปได้ ดังนั้น ทางพรรคก้าวไกลก็อาจจะต้องมีการปรับเงื่อนไขให้ทางวุฒิสภาหรือสส. พรรคอื่น ๆ พอยอมรับได้ แต่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับนโยบายหรือจุดยืนพรรค ซึ่งก็ไม่ดีกับฐานเสียง โดยตรงนี้ก็อาจจะบอกยากสักหน่อย ว่าทางพรรคจะเดินเกมยังไง

ทั้งนี้ตลาดมองว่า การโหวตเลือกนายกฯ อาจจะเป็นเกมระยะยาว ความไม่แน่นอนก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งตลาดรับรู้พอสมควร ดังนั้น downside risk ค่อนข้างจำกัด ซึ่งก็อาจจะสะท้อนผ่านการที่เงินบาทไม่ได้ผันผวนอ่อนค่าแรงอย่างที่เคยกังวล และนักลงทุนต่างชาติก็ไม่ได้ขายสินทรัพย์ไทยรุนแรง ซึ่งต่อให้มีการชุมนุมประท้วง ก็อาจจะไม่ได้รุนแรงมากนัก

“แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทน่าจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็คงทำให้เงินบาทแข็งค่าต่อชัด ๆ ได้ยาก แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยกลับมาอ่อนค่าลง”

อย่างไรก็ตาม นอกจากประเด็นการเมืองไทย ควรรอจับตาท่าทีของทางการจีนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการประชุม Politburo ซึ่งจะช่วยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นได้ และต้องระวัง ความผันผวนในตลาดการเงิน ช่วงทยอยรับรู้ผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 เพราะหากตลาดปิดรับความเสี่ยง เงินดอลลาร์ก็อาจรีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้บ้าง ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น  โดยเบื้องต้นให้กรอบระยะสั้น 34.30-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

"สุดท้ายแคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลก็อาจไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ และพรรคก้าวไกลก็ไม่อาจสามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากนโยบายของทางพรรคที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดทุนอาจไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งหากผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ก็อาจช่วยหนุนให้เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นได้บ้าง"

โหวตนายกฯ รอบ 2 กระทบตลาดเงินมากแค่ไหน !

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ Nation Online ว่า  ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.30-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ติดตามยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ และความคืบหน้าเกี่ยวกับการโหวตนายกฯรอบ 2 ในไทย

โดยเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่า ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แตะจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือนหลังตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ใกล้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ข้อมูลบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อชะลอลง อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศอาจสร้างความผันผวนให้กับค่าเงินบาทและนักลงทุนต่างชาติรอดูความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคในช่วง 1 ก.ค.- 14 ก.ค. พบว่า  วอน-เกาหลีใต้แข็งค่ามากสุด 3.86% รองลงมาเป็นริงกิต-มาเลเซีย  2.92% ดอลลาร์-สิงค โปร์ 2.39%  บาท-ไทย  2.34% เปโซ-ฟิลิปปินส์  1.55%หยวน-จีน 1.54% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.66%   รูเปียห์-อินโดนีเซีย  0.25% ยกเว้น รูปี-อินเดียอ่อน 0.04% และ ดอง-เวียดนาม 0.35%

อย่างไรก็ตาม  เดือนนี้ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 5.8 พันล้านบาท

โหวตนายกฯ รอบ 2 กระทบตลาดเงินมากแค่ไหน !

logoline