svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ราคาทองคำพุ่งแค่ไหน ! หลังไอเอ็มเอฟคาดเศรษฐกิจโลกโตไม่ถึง 3%

09 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วายแอลจีประเมินทิศทางราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น หลังไอเอ็มเอฟประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะโตไม่ถึง 3% ก่อให้เกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด  เปิดเผยกับ Nation Online ว่า  ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะโตไม่ถึง 3% ในปี 2023 ชะลอตัวลงจากที่โต 3.4% เมื่อปีที่ผ่านมา กระตุ้นความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จนหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซน 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดปี 2020 และ ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์) และ โซน  2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดปี 2022 )  

ราคาทองคำพุ่งแค่ไหน ! หลังไอเอ็มเอฟคาดเศรษฐกิจโลกโตไม่ถึง 3%

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือ การรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่สหรัฐฯ  ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มความแข็งแกร่งของภาคธนาคาร หลังจากการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ได้สร้างความตื่นตระหนกในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายทองคำของตลาดโลกอาจเบาบางต่อเนื่อง เนื่องจากบางประเทศโดยเฉพาะในยุโรป เช่น ฝรั่งเศสล , เยอรมนี,อิตาลี และ สหราชอาณาจักรจะปิดต่อเนื่องถึงวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. เนื่องในวัน Easter Monday

นอกจากนี้เกาะติดรายงานการประชุม FOMC Meeting Minutes  (รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ประจำวันทที่  21-22 มี.ค. ที่ผ่านมา )เพื่อแสดงความชัดเจนในเงื่อนไขของการพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยของเฟด ร่วมทั้งการเปิดเผย ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ

รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ กรณียูเครนได้หารือเกี่ยวกับโอกาสในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หลัง นาโตให้การรับรองฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกรายที่ 31

สำหรับราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 2,031 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับโซนดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จึงเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่เพื่อสะสมแรงซื้อเข้าใกล้โซน 1,990ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หากยืนไม่อยู่ประเมินแนวรับถัดไปโซน 1,960  ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ตาม แนะนำเข้าซื้อในบริเวณ 1,990-1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์  (ตัดขาดทุนหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาปรับตัวขึ้นให้พิจารณาบริเวณ 2,031-2,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะซื้อ เพื่อทำกำไร แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

 

logoline