svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เปิดโพย 7 หุ้นเด่นรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งตัวไหนแจ่ม

19 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บล.กสิกรไทยมองหุ้นไทย แกว่งไซด์เวย์อัพ 1,555- 1,585 จุด ตลาดจับตาเฟดเคาะขึ้นดอกเบี้ย -การประกาศยุบสภา  ด้านบล.พายชี้เผยสถิติก่อนการเลือกตั้งปี 62  ช่วง 3 เดือน SET ให้ผลตอบแทน 3.5%  เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเลือกตั้ง

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า แกว่งตัว Sideway up ในกรอบ 1,555- 1,585 จุด ประเมินภาพใหญ่ Flow ต่างชาติมีโอกาสชะลอการขาย จากสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแกว่งตัวอ่อนค่าลง จากปัญหา Glidlock ทางการเมืองจากฝั่งสหรัฐฯ   และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด มีโอกาสผ่อนคันเร่งชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ทั้งนี้คาดว่า SET index ไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ  1,600 จุด ประเมินหากตลาดย่อลงมาเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นอีกครั้ง     โดยเราประเมินปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้นคือ  1. ประชุมเฟดd  จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%  ตามคาดหรือไม่ หลัก ๆ เราให้น้ำหนัก Dotplot คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ เฟดในปีนี้ จะออกมาในโทน Dovish มากขึ้นหรือไม่ หรือจะยัง Hawkish เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ  แม้จะมีปัญหาฝั่งภาคธนาคาร อาทิ SVB  ซึ่งจะต้องประเมินหลังประชุมเฟด เพื่อกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง  

 2. คาดสัปดาห์นี้จะเห็นการยุบสภา เนื่องจาก 23 มี.ค.รัฐบาลปัจจุบันจะ สิ้นสุดวาระ ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้น  กลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM ราคาพื้นฐาน 64.5  บาท  คาดกำไร 1Q23 เติบโตต่อ ได้กระแสบวกจาก Bond Yields ปรับลง และเงินบาทแข็งค่า    

กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH ราคาพื้นฐาน 23.8  บาท   คาดมีปัจจัยบวกหนุนจากในเดือน เม.ย.  คาดการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่าย SSO จะถูกปรับขึ้น 8-10% และ หุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกยังเติบโต Prob recession ลดลง คือ กลุ่มเรือเทกอง แนะนำ PSL  ราคาพื้นฐาน  18.5 บาท

เปิดโพย 7 หุ้นเด่นรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งตัวไหนแจ่ม

เปิดโพย 7 หุ้นเด่นรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งตัวไหนแจ่ม

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับผลประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย สำหรับผลประชุมครั้งนี้ CME FED Watch ให้น้ำหนักส่วนมากราว 62% ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ขณะที่อีก 38% ให้น้ำหนักคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม

ทั้งนี้หากประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก็มองว่าไม่มีผลอะไรมากกับการลงทุน แต่สิ่งที่นักลงทุนจะให้น้ำหนักได้แก่ถ้อยแถลงจากการประชุมและมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับธนาคารต่างๆว่า FED จะมีวิธีจัดการหรือช่วยเหลืออย่างไร ปัจจัยอื่นๆได้แก่ (1) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ที่ 4.19 ล้านหลังคาเรือน
(2) ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.5 แสนหลังคาเรือน

ส่วนในประเทศรัฐบาลได้เตรียมแผนประกาศยุบสภาเบื้องต้นเราเชื่อว่าจะเกิดภายในสัปดาห์นี้ โดยการยุบสภาเปรียบเสมือนกับการทำให้ความเป็นสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามกฎหมายแล้วหลังจากประกาศยุบสภาจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 – 60 วัน

ดังนั้นหากรัฐบาลตัดสินใจประกาศยุบสภาสัปดาห์หน้า การเลือกตั้งไทยอย่างไม่เป็นทางการจะไม่เกินไปกว่าปลายเดือน พ.ค. หรือเร็วสุดช่วงต้นเดือน พ.ค. สถิติการเลือกตั้งปี 2019 พบว่าก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือนพบว่า SET INDEX ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 3.5%

โดยกลุ่มที่โดดเด่นสุดจะได้แก่ค้าปลีก อาหาร และรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่เชิงปัจจัยพื้นฐานพบว่ารายได้ในกลุ่มค้าปลีก (BJC ,CPALL, COM7, HMPRO, DOHOME, GLOBAL) พบว่ารายได้ช่วง 1Q19 (ช่วงที่มีการเลือกตั้งในปี 2562) พบว่ารายได้รวมอยู่ที่ 2.08 แสนล้านบาท (+0.8%QoQ +10.4%YoY)

จากข้อมูลเบื้องต้นก็พอตีความได้ว่าช่วงเลือกตั้งได้มีเม็ดเงินสะพัดลงไปจนทำให้รายได้มีการขยายตัวเล็กน้อย (YoY เรามิได้ให้น้ำหนักมากนัก,เนื่องจากบริษัทต่างๆอาจมีการขยายสาขาหนุนรายได้ขยายตัวขึ้น) โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,550 – 1,580 Top Pick เลือก CPALL (TP 72) CK (TP 27.75) CPN (TP 83) AOT (TP 78)

เปิดโพย 7 หุ้นเด่นรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งตัวไหนแจ่ม

 

logoline