นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,652.47 จุด ลบ 7.01 จุด หรือ 0.42% ระหว่างวันดัชนีซื้อขายสูงสุด 1,658.92จุด และต่ำสุดที่ 1,647.37 จุดมูลค่าการซื้อขาย 56,105.74 ล้านบาทกับ Nation Online ว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงสอดรับตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่ปิดแดงยกแผง กังวลธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ หลังจากที่รายงานประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ยังคงสะท้อนถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นของเฟดในการคุมปัญหาเงินเฟ้อ ด้วยการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง (โดยมีคณะกรรมการเฟดบางท่านยังคงสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50%
สำหรับหุ้นที่กดตลาดในวันนี้เป็นกลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP,TOP สื่อสาร เช่น INTUCH ค้าปลีก เช่น CPALL ขณะที่หุ้นที่ดันตลาดเป็นอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA ขนส่ง เช่น AOT เป็นต้น
ด้านมูลค่าการซื้อขายพบว่าต่างประเทศขายสุทธิ 2,899.85 ล้านบาทบัญชีบล.ขายสุทธิ 937.89 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 1,357.08 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 2,480.66 ล้านบาท ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ทั้งนี้มองแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งซึม ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ที่ 1,635-1,660 จุด เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่หนุนตลาด เน้น Selective Buy โดยเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดี เช่น ERW, AEONTS และหุ้น SAK รวมถึงหุ้นที่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เช่น STA,GPSC,PTG,BANPU และ DOHOME
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,074.86 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,569.48 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,561.07 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,537.43 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,400.57 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท