svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

ไทยพาณิชย์ประกาศแผน 3 ปีขึ้นแท่นอันดับ 1 แบงก์ในใจทุกกลุ่ม

17 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“กฤษณ์”วางแผนงานดันไทยพาณิชย์มุ่งสู่ดิจิทัลแบงก์กิ้ง วางเป้าหมาย 3 ปีสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมากกว่า 10%  พร้อมขึ้นแท่นที่ 1 ในใจลูกค้าทุกกลุ่มในปี 68 เตรียมปล่อยกู้ธุรกิจ ESG กว่าแสนล้าน ตั้งเป้าเอยูเอ็มทะลุ 2 ล้านล้านบาท

นายกฤษณ์  จันทโนทก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า  แผนงานในปี 66 ธนาคารมุ่งเน้นการสร้างสมดุลของการขยายพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ  โดยตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อประมาณไม่เกิน 5% และสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 10 % ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 40%

อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับกระบวนการให้เป็นดิจิทัลอย่างครบวงจรตามแผน 3 ปี ในปี 2563 ธนาคารมีเป้าหมายจะลดอัตราส่วนคำใช้จ่ายต่อรายได้ให้ต่ำกว่า 40% รวมถึงการเป็นอันดับ 1 wealth wallet share

นอกจากนี้มีแผน พร้อมผลักดันสินเชื่อสีเขียว (Green Finance)  ด้วยการปล่อยกู้ธุรกิจเกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อมเพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท ตามเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน (ESG) ด้วยยุทธศาสตร์ดาวเหนือของธนาคารจะผลักดันให้ไทยพาณิชย์เป็นธนาคารที่ดีขึ้นตามวิสัยทัศน์ Digital Bank with Human Touch สร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วยบริการที่รู้จักลูกค้าผ่านข้อมูลและรู้ใจลูกค้าผ่านความรู้สึก และก้าวสู่การเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าทุกกลุ่มในปี 2568

ขณะเดียวกันเน้นขยายฐานลูกค้ามั่งคั่งเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 4 แสนคน และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(เอยูเอ็ม) อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท และในปี 68 คาดว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มเป็น 6 แสนคน และเอยูเอ็มแตะ 2 ล้านล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การเป็นดาวเหนือนำธุรกิจก้าวสู่ดิจิทัลแบงก์อันดับ 1 ด้านการบริหารความมั่งคั่ง เน้นใน 3 เรื่องหลักคือ 1. ปรับองค์กรเป็นธนาคารดิจิทัล  เนื่องจากคนไทยปัจจุบันมีการใช้แอปพลิเคชันการเงินเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และประมาณ 94% ของคนไทยเข้าถึงบริการทางการเงิน และมีความต้องการใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น เราจึงต้องมีการยกระดับบริการสู่ธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มตัว และมอบบริการการเงินดิจิทัลให้ได้อย่างครบวงจร

โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลทางด้านบริการเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า  นอกจากนี้ ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างบริหารงานเพื่อรวมงานทางด้าน ดิจิทัลแบงก์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และปฏิบัติการ เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ความดูแลของ ผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Technology

ซึ่งสายงานดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการยกระดับธนาคารให้เป็นธนาคารดิจิทัลอย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่ระบบการให้บริการเท่านั้น แต่จะมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ และการเติบโตให้แก่ธนาคารต่อไปในอนาคต

2. เป็นเจ้าตลาดทางด้านบริหารความมั่งคั่ง ธนาคารได้วางรากฐานบริการด้านบริหารความมั่งคั่งไว้อย่างเพียบพร้อม ทั้งทางด้านบุคลากร ที่ปัจจุบันมีจำนวนที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่ได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำของเอเชียมากที่สุดในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลาย พันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ในส่วนของกลุ่มลูกค้าตามโครงสร้างภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่ของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์  

โดยฐานลูกค้าปัจจุบันของธนาคารเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ประกอบกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดส่งผลให้เกิดกระแสความมั่งคั่งกลับคืนมา จึงเป็นโอกาสที่ธนาคารเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอบริการบริหารความมั่งคั่งอย่างครบวงจร ไม่เพียงแต่เฉพาะต่อยอดความมั่งคั่งทางด้านทรัพย์สินส่วนบุคคคลเท่านั้น

แต่ยังหมายถึงการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของลูกค้า ทั้งการขยายธุรกิจ การระดมทุนรูปแบบต่างๆ หรือการขยายลงทุนในต่างประเทศ ให้แก่ลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าองค์กร ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ธนาคารมอบให้ ซึ่งถือเป็นการขยายความมั่งคั่งให้ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

3. ยกระดับประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทาง ทั้งในโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัยเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการให้บริการในวงกว้าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 ธนาคารทีพอร์ตสินเชื่อรวม 2.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อบุคคล 9.8 แสนล้านบาท สินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 4.1 แสนล้านบาท และธุรกิจขนาดใหญ่ 9.2 แสนล้านบาท

 

 

logoline