กรณีที่มีกระแสข่าวในตลาดหลักทรัพย์ว่าจะมีการเลื่อนหรือยกเลิกการเก็บภาษีขายหุ้น ทำให้หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ปรับสูงขึ้น นั้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า โดยยืนยันว่า ไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการ พิจารณาตามกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ เมื่อแล้วเสร็จจะทำการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา แต่ยังไม่สามารถระบุวันได้อย่างแน่ชัด
ทั้งนี้แผนการเก็บภาษีขายหุ้น จะจัดเก็บในอัตรา 0.11% ของมูลค่าหุ้นที่ขาย (รวมภาษีท้องถิ่นไปแล้ว) โดยในปีแรกของการบังคับใช้กฎหมายภาษีฉบับนี้ จะจัดเก็บในอัตราครึ่งหนึ่งของที่กฎหมายกำหนดคือ จะจัดเก็บในอัตรา 0.055 % (รวมภาษีท้องถิ่นไปแล้ว)
เพื่อให้เวลาปรับตัวสำหรับนักลงทุน และเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีเวลาปรับตัว เมื่อกฎหมายลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะให้เวลาปรับตัว 3 เดือน โดยให้มีผลในวันที่ 1 ของเดือนที่สี่ ซึ่งกระทรวงการคลังประเมินว่ามาตรการนี้จะทำให้รัฐบาลมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กฎหมายภาษีฉบับนี้ มีข้อยกเว้น ไม่จัดเก็บภาษีสำหรับกรณีการซื้อขายหุ้นผ่าน Market Maker ไม่ว่าจะเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข. หรือประกันสังคม จะได้รับการยกเว้นภาษีตัวนี้ เนื่องจากเป็นกองทุนขนาดใหญ่ ที่ช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับตลาดหลักทรัพย์
สำหรับการวิธีการจัดเก็บภาษีตัวนี้ กรมสรรพากร จะมอบให้ Broker เป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งกรมสรรพากร เนื่องจาก Broker มีภาระหน้าที่ต้องจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว ในส่วนของนักลงทุนที่ถูกหักภาษีตัวนี้ ไม่ต้องนำรายได้จากการขายหุ้นไปรวมคำนวณกับรายได้ของปีนี้ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะถือเป็น Final Tax