เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า"หุ้นไทย" 1.96 แสนล้าน สูงสุดรอบ 30 ปี

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี  65 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นอาเซียน โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก จากเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ประกอบกับข่าวดีที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยเปิดประเทศ

โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และกลับไปสู่ระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาด COVID-19

ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า โดยผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งปีอยู่ที่ 196,886 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ข้อมูลนี้ในปี 35  แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ  

รวมถึงความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศเร่งตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงลบและปรับตัวลดลงตลอดปี แต่ดัชนีหุ้นไทยมีความผันผวนที่น้อยกว่าและเป็นดัชนีเพียงไม่กี่ดัชนีในโลกที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก

ทั้งนี้สิ้นธ.ค.65 ดัชนีปิดที่ 1,668.66 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.0% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 64  ที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.7% โดยกลุ่มอุตสาห กรรมในปี 65 ที่ปรับตัวดีขึ้น เช่น  กลุ่มทรัพยากร กลุ่ม เทคโนโลยี บริการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง  

สำหรับตลาดหุ้นไทยถือว่ามีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนตั้งแต่ปี  55 แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันจะปรับลดลงมาจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาค

โดยเดือนธ.ค. 65 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 56,184 ล้านบาท ลดลง 27.3% หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และในปี 65 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 76,773 ล้านบาท

ด้านการระดมทุนนั้น พบว่ามีมูลค่าการเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย โดยมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนจากหลากหลายอุตสาหกรรม

โดยในเดือนธ.ค. 65 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 5 หลักทรัพย์ และ 1 กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า และ mai 4 หลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าการเสนอขายในหุ้นไอพีโอ (IPO) ของไทยปี 65 อยู่ที่ 127,836 ล้านบาท

ส่วนของ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย สิ้นเดือนธ.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 16.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.2 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 14.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.0 เท่า

ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน สิ้นเดือนธ.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 2.76% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.16%

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในปี 65 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 565,627 สัญญา เพิ่มขึ้น 0.9% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้น SET50 Index Futures โดยเดือนธ.ค. 65 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 690,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.7% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ Single Stock Futures