svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'คนละครึ่งพลัส' 6 วันยอดใช้จ่าย 1.34 หมื่นล้าน ร้านค้า 8.26 แสนราย

'คนละครึ่งพลัส' 6 วัน เงินสะพัด ยอดใช้จ่ายทะลุ 1.34 หมื่นล้าน ร้านค้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.26 แสนราย คลังเตือนร้านค้าห้ามฉวยโอกาสบวก VAT

กระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) โดย ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. มียอดใช้จ่ายรวมกว่า 13,427.60 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 6,797.51 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 6,630.08 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท

สำหรับความคืบหน้าของการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น.  มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วจำนวน 826,305 ราย 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2568 เป็นต้นไป ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งพลัส ผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีที่เข้าร่วมโครงการได้ ขณะนี้มีร้านค้าที่เข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรี ลงทะเบียนแล้วกว่า 4 หมื่นราย ซึ่งพร้อมรองรับการใช้จ่ายของประชาชน
 

'คนละครึ่งพลัส' 6 วันยอดใช้จ่าย 1.34 หมื่นล้าน ร้านค้า 8.26 แสนราย

กระทรวงการคลังย้ำถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้จ่ายในโครงการฯ ว่า การใช้จ่ายในโครงการฯ จะต้องเป็นการซื้อขายสินค้า และบริการเฉพาะบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า โดยผู้ซื้อและผู้ขายต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการแบบพบหน้า (Face to Face) โดยไม่มีการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์หรือผ่านคนกลาง เว้นแต่การใช้สิทธิผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่เข้าร่วมโครงการฯ 

ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่ให้บริการนวด และสปา ที่ประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ขอให้ตรวจสอบชื่อและที่ตั้งของสถานประกอบการในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้ตรงกับใบอนุญาตสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการตรวจสอบและอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ดังมีรายละเอียดวิธีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลร้านค้าถุงเงินบนเว็บไซต์ถุงเงินกรุงไทยปรากฏตาม QR Code
 

ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ กรณี ร้านค้าคนละครึ่งพลัส ถือโอกาสขึ้นราคาสินค้าในร้าน 7-10% โดยอ้างว่าเป็นค่าภาษีที่ร้านอาจจะต้องเสียในอนาคต นั้น กระทรวงการคลัง ขอเตือนให้ร้านค้าเหล่านั้นหยุดพฤติกรรม และอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา เพราะจะนำข้ออ้างเรื่องภาษีมาฉวยขึ้นราคาสินค้าไม่ได้ เนื่องจากร้านค้าไม่ได้มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นจากโครงการคนละครึ่ง อีกทั้งข้อมูลคนละครึ่งรัฐจะมีการเก็บไว้ ไม่ได้ส่งให้กรมสรรพากรด้วย 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง ได้ประสานไปกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้ช่วยตรวจสอบราคาสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลกวดขันไม่ให้ร้านค้าฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน หากพบกระทำผิดก็จะมีการตักเตือนก่อน และหากไม่เชื่อฟังก็อาจจะมีการถอนออกจากโครงการ เพราะถือว่าทำผิดวัตถุประสงค์ เพราะคนละครึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ร้านค้าขายดีขึ้น ไม่ได้ให้ร้านค้าไปอ้างขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน