
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อรมน ทรัพย์ทวีธรรม ระบุ การจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทยไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ภาพรวมส่งสัญญาณไปในทิศทางที่ดี การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างโครงการ Digital Wallet ที่มีรายละเอียดและแนวทางชัดเจนมากขึ้น สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม
สำหรับธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ คือ ธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมของบริษัทโฆษณา เช่น การให้บริการด้านการออกแบบสร้างสรรค์การผลิตสิ่งต่างๆ ที่ใช้ในการโฆษณา การวางแผนและการซื้อสื่อโฆษณาเดือนเมษายน 2567 มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 106 ราย และมีแนวโน้มเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจที่ 32.50% เพิ่มขึ้น 26 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 โดยธุรกิจที่จัดตั้งใหม่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) 100% แสดงให้เห็นถึงธุรกิจขนาดย่อยสามารถการเข้าสู่อุตสาหกรรมโฆษณาได้มากยิ่งขึ้น โดยธุรกิจโฆษณามีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางบวก การเติบโตของสื่อดิจิทัลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ธุรกิจเกิดการแข่งขันกันสูง สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่กลับมาจับจ่ายใช้สอย ธุรกิจจึงต้องใช้โฆษณาเข้ามาช่วยดึงดูด สร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าหรือบริการ
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวเด่นที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นที่น่าสนใจและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยใน 4 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-เมษายน) มีธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 56 ราย เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และทุนจดทะเบียน 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และในปี 2566 มีจำนวน 137 ราย ทุนจดทะเบียน 258 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 20%
โดยปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 12,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปี 2564 และมีแนวโน้มที่จะมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมาช่วยสนับสนุน แต่ที่สำคัญเป็นการปรับตัวของธุรกิจในอุตสาหกรรมหนังไทยให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริบทของสังคมไทย ที่มีการเปิดกว้างในความหลากหลายทางเพศมากขึ้น
โดยพระเอกที่มาช่วยพัฒนาวงการนี้คือ ซีรีส์วาย เป็นคอนเทนต์ที่สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จำกัดเพศ เปิดกว้างในการนำเสนอความรักในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซีรีส์วายสามารถสร้างมูลค่าในธุรกิจผลิตภาพยนตร์ให้กลับมาสร้างกำไรได้อย่างมาก และยังสร้างเม็ดเงินขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ได้อีกด้วย ทั้งธุรกิจโฆษณา การสร้างมูลค่าจากตัวนักแสดงให้ไปเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด ธุรกิจจัดกิจกรรม (Event) และธุรกิจท่องเที่ยว
ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ผลิตซีรีส์วายกว่า 177 เรื่อง สามารถสร้างกระแสความนิยมเรื่อยมาและขยายกลุ่มลูกค้าในวงกว้างจนสามารถส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศได้