สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กรณีการทุจริตของ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน ซึ่งสร้างความเสียหายให้ผู้ลงทุนในตลาดทุนจำนวนมาก โดยผู้เข้าร่วมการหารือครั้งนี้จาก ปปง.ประกอบด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี2 นายณิชพน จินต์ณิชาภา ผู้อำนวยการส่วนการปฏิบัติงานคดี 3 กองคดี2 และผู้บริหาร ก.ล.ต. นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ นายสุเมธ วิเชียรชัย ผู้อำนวยการ ฝ่ายคดี และนางศิริวรรณ บางแวก ผู้อำนวยการ ฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน 2
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เทพสุ บวรโชติดารา ระบุ ปปง. และ ก.ล.ต. ประสานงานกันมาโดยตลอดในกรณีหุ้น STARK โดยเร่งรัดดำเนินการบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ส่วนการอายัดทรัพย์สินคืบหน้าไปมากซึ่งต้องยอมรับว่ามีความยุ่งยากอยู่พอสมควร
โดยคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ความสำคัญและอยากให้เร่งรัดดำเนินการ ซึ่ง กมธ. มีข้อสังเกตในเชิงการบูรณาการทำงานเพราะเรื่องนี้เกิดความเสียหายจำนวนมากที่ต้องเร่งรัดโดยเร็ว
สำหรับกรณีหุ้น STARK กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รับกรณี อดีตผู้บริหารบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น กระทำการทุจริตอันเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นคดีพิเศษเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 3 (3) กรณีการฉ้อโกงประชาชน และได้แจ้งข้อหา ผู้ต้องหาครบทุกรายตามที่ ก.ล.ต. กล่าวหา ในความผิดกรณีการแต่งบัญชีกรณีเป็นผู้บริหารทุจริต เป็นบุคคลธรรมดา 5 ราย ได้แก่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ นายชินวัฒน์ อัศวโภคี นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม และ นางสาวยสบวร อำมฤต สำหรับนิติบุคคลจำนวน 5 ราย ได้แก่ บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น บริษัท เฟัลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยในส่วน DSI จะเร่งรัดสอบสวนดำเนินคดีในความผิดมูลฐานและสรุปสำนวนการสอบสวนภายในเดือนพฤศจิกายน
ส่งวนของการอายัดทรัพย์สินในคดีนี้ เป็นการอายัดโดย 3 หน่วยงาน คือ DSI ก.ล.ต. และ ปปง. โดย ปปง. จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการธุรกรรมภายในสัปดาห์หน้า และเพื่อป้องกันการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ DSI และ ปปง. จะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบการดำเนินการของผู้สอบบัญชีอย่างเข้มงวดต่อไป
ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า เนื่องจากบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566)
ซึ่งหาก STARK ยังไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลานำส่งงบการเงิน กล่าวคือ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ตลาดหลักทรัพย์ฯจะประกาศให้ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติม
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ STARK เร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนได้รับทราบ