svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business thai

ผงะคนไทย 2 ราย ถือหุ้นแทนต่างด้าว 269 บริษัท

พาณิชย์ลุยตรวจสอบนอมินี 9 จังหวัดพบจ.เชียงใหม่-จ.ชลบุรี ผู้ถือหุ้นคนไทย 2 ราย มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น 269 บริษัท ท่องเที่ยว-อสังหาริมทรัพย์แชมป์ ฟันเอาผิดนิติบุคคล-คนไทยถือหุ้นแทนต่างชาติ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 100,000 – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยผลการตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินีในไทยว่า  จากการตรวจสอบธุรกิจทั้งสิ้น 439 ราย ใน 3 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท พื้นที่เป้าหมาย 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต สุราษฎร์ ธานี  ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพฯ

ซึ่งในเบื้องต้นพบว่านิติบุคคลที่อาจกระทำความผิดนอมินีในจังหวัดเชียงใหม่ และชลบุรี  โดยคนไทย 2 ราย มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ใน 269 บริษัท  แบ่งเป็น บริษัท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 60 บริษัท ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง 6 บริษัท ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ท 4 บริษัท ธุรกิจบริการ 184 บริษัทและธุรกิจอื่นๆ เช่น ค้าส่ง ค้าปลีก ขนส่ง เกษตรกรรม 15 บริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลมูลค่าการลงทุนและข้อมูลการประกอบธุรกิจเพิ่มเติม

สำหรับการกระทำความผิดส่วนใหญ่เกิดจากคนไทยยอมรับผลประโยชน์ สมยอม หรือมีที่ปรึกษากฎหมายแนะนำให้หลีกเลี่ยงกฎหมาย จึงขอเน้นย้ำให้คนไทยอย่าหลงเชื่อ ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมาย

นอกจากนี้พบว่ามีสำนักงานบัญชีและกฎหมายหลายแห่ง แนะนำหรือจ้างคนไทยเข้ามาถือหุ้นแทนคนต่างชาติ โดยให้คนไทยถือหุ้นสัดส่วน 51% และต่างชาติ 49% เพื่อทำให้บริษัทนั้นมีสถานะเป็นนิติบุคคลไทยและประกอบธุรกิจได้โดยไม่ต้องอนุญาต หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีคนไทยจงใจให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ร่วมประกอบธุรกิจ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว ที่เข้าข่ายนอมินี จะส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 66 ราย บทลงโทษผู้ที่เป็นนอมินีจะมีความผิดทั้งนิติบุคคล ผู้ให้ความช่วยเหลือ และผู้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 100,000 – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน

สำหรับการดำเนินคดีกับนอมินีนั้น ล่าสุดเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งสำนวนคดีพิเศษกรณี นอมินีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว ให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย เป็นคนต่างด้าวและคนไทยที่ร่วมกันกระทำความผิดประกอบธุรกิจในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย โดยคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยเข้ามาถือหุ้นแทนเพื่ออำพรางแหล่งที่มาของเงินทุนในการประกอบธุรกิจ

ส่วนแนวทางการป้องปรามนอมินีนั้น ก่อนจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล จะตรวจสอบเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นคนไทยที่ลงทุนหรือถือหุ้นในนิติบุคคลร่วมกับคนต่างด้าว เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือว่าคนไทยรายนั้น มีฐานะทางการเงินที่ลงทุนด้วยตนเองได้ หากจดทะเบียนแล้ว กรมมีโครงการตรวจสอบประจำปี

โดยคัดเลือกกลุ่มเสี่ยง เช่น ธุรกิจที่คนต่างด้าวถือหุ้นไม่ถึง 50%  ธุรกิจมีคนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจกระทำการให้สิทธิคนต่างด้าวมากกว่าคนไทยไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิการออกเสียงลงคะแนน สิทธิการรับเงินปันผล สิทธิการรับคืนทุนเมื่อเลิกกิจการ  เป็นต้น  รวมถึงนำเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในทำธุรกิจ เช่น การกู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงินแก่คนต่างด้าว โดยมีเงื่อนไขที่ผิดปกติ มาประกอบพิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า  คนไทยเป็นนอมินีของคนต่างด้าวมีนิติบุคคลที่เข้าข่ายเป็นนอมินีเฉลี่ยปีละ 400-500 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เข้ามาประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์  ใช้คนไทยถือหุ้นแทน

โดยแหล่งที่ตั้งส่วนใหญ่จะเป็นหัวเมืองใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเป็นแหล่งผลประโยชน์มหาศาลทำให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการตั้ง “นอมินี”เพื่อหลีกเลี่ยงกฏหมาย สร้างความเสียหายให้กับคนไทยทั้งเศรษฐกิจและอาชญากรรม