รวบ 4 นอมินี ขยายผล"ผับไดมอนด์ เคทีวี"ปล่อยนักเที่ยวจีน ปาร์ตี้ยาเสพติด

29 สิงหาคม 2566 กรณีตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี(กก.ดส.) หรือ ตำรวจ ดส.บุกจับสถานบริการ ไดมอนด์ KTV บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อกลางดึกวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รวม 48 ราย หลังพบเปิดห้องคาราโอเกะวีไอพี มั่วสุมเสพยา พร้อมของกลางยาเสพติด โคเคน,เคตามีน,ยาอี,แฮปปี้วอเตอร์ จำนวนหนึ่ง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• พนักงานบัญชีสถานบันเทิงปาร์ตี้ยา เผยร้านเพิ่งเปิด อ้างไม่รู้ใครเจ้าของ
• ผบ.ตร.สั่งขยายผลนทท.จีนปาร์ตี้ยา ย่านมักกะสัน
• คุมตัวนักท่องเที่ยวจีนปาร์ตี้ยา ฝากขัง แยกคุมตัวส่ง 3 ศาล

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. นำกำลังเข้าตรวจค้นขยายผลจับกุมกลุ่มนอมินีชาวจีนเทา เข้าค้น 3 จุดเป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.สุวิภา สุปริยหรรษา อายุ 24 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา หลังนำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจค้น และจับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ถนนหนองไม้แก่น ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

รายที่ 2 นายปราโมทย์ ศรีสมศักดิ์ อายุ 43 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา หลังนำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้น และจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ถ.นครอินทร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

รายที่ 3 น.ส.นาจู แซ่ลี อายุ 45 ปี สัญชาติลาหู่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา หลังนำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าจับกุมได้ที่ห้องพักในคอนโดมิเนียม ถ.นเรศ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ



รายสุดท้าย นายวริศทนนธ์ สุปริยหรรษา หรือ "ชายเล็ก" อายุ 61 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา โดยรายนี้ถูกสกัดจับได้ที่ ทล.11 กม.318 หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะกำลังหลบหนี

โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ยังให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีทั้ง 4 รายในข้อหา “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน และยาอี) และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตมีน) โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด,



สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันมีวัตฤออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนขายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต, ร่วมกันขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ,

ร่วมกันยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ และยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน, ร่วมกันมี ใช้ เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นอั้งยี่” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป