ผอ.สลากขานรับนโยบายรัฐบาล จ่อออกสลากฯ เพิ่มช่วยการศึกษาเด็ก

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้รับข้อเสนอของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ถึงแนวทางการออกสลากเพื่อความเสมอภาคว่า  ได้สั่งการให้รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ เข้าไปหารือและชี้แจงรายละเอียดกับนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพราะตนดูงานอยู่ที่ตุรกี

ซึ่งตามกฎหมายแล้วการออกสลากฯ ดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ทันทีตามนโยบายของรัฐบาล ในรูปแบบของการออกสลากการกุศล ภายใต้พ.ร.บ.การพนัน ที่สามารถนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากฯไปดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐบาล โดยอาศัยอำนาจของครม.

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ พร้อมรับนโยบายการออกสลากการกุศล เพื่อการศึกษาทันที เพราะถือว่าเป็นอำนาจของครม. เป็นนโยบายของรัฐบาล และพ.ร.บ.การพนัน ได้เปิดทางให้อยู่แล้วที่สามารถจะนำรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศลไปดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยไม่ต้องนำส่งรายได้เข้าคลัง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ครม.ได้อนุมัติกรอบให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถออกสลากการกุศลได้รวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท  ซึ่งมีหน่วยงานได้รับการอนุมัติให้ออกสลากการกุศลไปแล้ว 16 โครงการ ที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในกลางปี 67 โดยออกแต่ละงวดจำนวน 11 ล้านใบ

ขณะที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้เข้ามาหารือในรายละเอียดกับสำนักงานสลากฯไปบ้างแล้ว ซึ่งตนเองได้ชี้แจงและอธิบายว่าหน่วยงานสามารถหารายได้จากโครงการสลากการกุศลได้อยู่แล้ว แต่ต้องขออนุมัติจากครม.

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 66 ครม.ชุดที่ผ่านมาได้เห็นชอบให้มีการออกสลากการกุศล เพิ่มเติมอีก 3 โครงการ วงเงินรวม 921.45 ล้านบาท เมื่อรวมกับ 16 โครงการเดิมจะรวมเป็น 19   โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 9,161.38   ล้านบาท

ซึ่ง 3 โครงการประกอบด้วย โครงการขยายพื้นที่บริการ เพิ่มศักยภาพการให้บริการรักษาพยาบาลและการรองรับโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำโรงพยาบาลสงขลานครินทร์วงเงิน 604.19 ล้านบาท โครงการศูนย์นวัตกรรมด้านการแพทย์ พลังงานและสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาลราชวิถี วงเงิน 67.26 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมต่อต้านการทุจริตแห่งประเทศไทย ของมูลนิธิต่อต้านการทุจริตแห่งประเทศ วงเงิน 250 ล้านบาท