จากสถานการณ์การเมืองไทยที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้บรรยากาศการการค้าการขายและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลาไม่คึกคักนัก เช่นเดียวกับการลงทุนภาคธุรกิจต่างๆยังสงวนท่าทีประกอบมาเลเซียเปิดเทอมใหม่ด้วยทำให้มีการชะลอการลงทุน
ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา ผู้ประกอบการธุรกิจด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ในฐานะนายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า บรรยากาศการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียช่วงหลังเลือกตั้งเงียบเหงาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 5 หมื่นคนต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะวันศุกร์และเสาร์ที่นักท่องเที่ยวสูงถึง10,000คนต่อวัน ปัจจุบันไต่ระดับที่ประมาณ 5,000คนต่อวันเท่านั้น
ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากเดือนพ.ค.เริ่มเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่มาเที่ยวเป็นครอบครัวใหญ่หายไป ประกอบกับภาวะค่าเงินสกุลริงกิตผันผวนต่อเนื่องอัตราการแลกเงิน 1 ริงกิตเท่ากับ 7.45- 7.59 บาททำให้มีผลต่อการจับจ่ายที่ชะลอตัว โดยภาคเอกชนหวังผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น
ดร.สิทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากการเข้าไปหารือธุรกิจคู่ค้ามาเลเซียพบว่าการเปลี่ยนแปลงของขั้วรัฐบาลไทยนั้นได้รับความสนใจจากนักธุรกิจมาเลเซียที่คาดหวังจะได้เห็นทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆเนื่องจากมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจชายแดนไทย-มาเลเซียโดยตรง เช่น ค่าเหยียบแผ่นดินที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามล่าสุดภาคเอกชนอยู่ระหว่างการหารือที่จะจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในช่วงเดือน มิ.ย. เพื่อสร้างบรรยากาศให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง