svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจฟื้น ! คนไทยว่างงานต่ำกว่า 1% ครั้งแรกรอบเกือบ 4 ปี

23 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สสช. เผยอัตราการว่างงานของคนไทยต่ำกว่า 1% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี สอดคล้องการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย โดยคนไทยมีงานทำมากขึ้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้รายงานถึงสถานการณ์ด้านแรงงานในช่วงต้นปี 66 ที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยผู้มีงานทำมีจำนวนมากขึ้น ส่วนผู้ว่างงานก็ลดลง

ทั้งนี้สสช.ระบุว่า ณ เดือน ก.พ. 66 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ของกลุ่มที่เป็นกำลังแรงงานอยู่ 58.81 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 40.49 ล้านคน อยู่นอกกำลังแรงงาน เช่น อยู่ระหว่างเรียนหนังสือ เป็นแม่บ้านทำงานบ้าน เป็นผู้พิการ ทุพพลภาพ  18.32 ล้านคน

ซึ่งเมื่อแยกพิจารณาเฉพาะผู้อยู่ในกำลังแรงงานพบว่าเป็นผู้มีงานทำ 39.91ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 39.81 ล้านคนเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 65 เป็นผู้ว่างงาน 3.6 แสนคน หรือ  0.9%ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน เทียบกับ 3.9 แสนคน หรือ 1% ณ สิ้นปี 65  ส่วนที่เหลืออีก 2.2 แสนคนเป็นผู้อยู่ระหว่างการรอฤดูกาล

“อัตราการว่างงานที่ระดับ  0.9%  นับเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดและต่ำกว่า 1 ครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่งระบบกำลังแรงงานไทยเคยมีอยู่ว่างงานต่ำว่า  1% ครั้งล่าสุดคือเดือน ต.ค. 62  ที่มีอัตราการว่างงาน  0.9% เช่นกัน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีการเติบเป็นปกติและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่ทั่วโลกเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 ในต้นปี 63”  

สำหรับจำนวนผู้มีงานทำที่เพิ่มขึ้น และผู้ว่างงานที่ลดลงเข้าไปสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด19 เป็นไปตามเป้าหมายและนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมได้มอบหมายแก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาการมีงานทำและการมีรายได้ของประชาชน

ส่วนในช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ให้ดูแลการฟื้นตัวดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช้มาตรการกระตุ้นที่รุนแรงโดยไม่มีความจำเป็น เพื่อรักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตกับเสถียรภาพ ไม่มุ่งไปที่การเติบโตจนก่อผลกระทบข้างเคียงทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆ เช่นปัญหาเงินเฟ้อ และต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงซึ่งอาจเกิดผลเสียงานต่อระบบการเงินของประเทศและประชาชน แบบที่เห็นตัวอย่างในต่างประเทศ  

logoline