นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่ววภายในงานสัมมนา The NEXT Thailand's Future : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า(14 มี.ค 2566) จะเสนอ “การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว” เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีแผนการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
1. พร้อมรับ (ปี 2566-2567) เปิดประเทศให้สร้างความประทับใจ สอดรับความต้องการของตลาดท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ชิงส่วนแบ่งการตลาดท่องเที่ยวโลก โดยเน้นการท่องเที่ยวที่สะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.การพัฒนา (ปี 2566-2568) ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวคุณภาพสูง จึงควรเน้นที่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และ พัฒนาครอบคลุม รูปแบบการท่องเที่ยวคุณภาพสูง มีศักยภาพ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์-วัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยเน้นการกระจายการท่องเที่ยวไปสู่ชุมชนที่มีศักภาพ
3. ผลิกโฉมประเทศไทย (ปี 2566-2570) โดยต้องกลับมาดูกระแสโลก ว่าต้องการเรื่องอะไร เช่น กระแสการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Tourism ซึ่งขณะนี้ได้กำลังพัฒนาเกาะคอเขา จังหวัดพังงา ให้เป็นแห่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำแบบ 100% ซึ่งคาดว่าจำสำเร็จภายในปี 2568 ก่อนจะขยายไปสู่แหล่งท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ในจังหวัดพังงา และผลักดันให้ จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดท่องเที่ยวแบบตาร์บอนต่ำ ภายในปี 2570 นอกจากนี้ ยังเล็งปั้นจังหวัดกระบี่ ให้เป็นเมืองแห่งการสปา ที่จังหวัดกระบี่ เนื่องจาก ที่มีบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม ซึ่งได้รับการรับรองว่ามีคุณภาพดีที่สุดในโลก
" การท่องเที่ยวในอนาคต ต้องเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่สอดคล้องกับปริมาณ ไม่ให้เกิดความแออัดด้านการท่องเที่ยวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเน้นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมมาณ เช่นกลุ่มนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงอยู่นาน หรือนักท่องเที่ยวที่ อาจจะไม่ได้ใช้จ่ายมาก แต่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคารพกฎกติกาของสถานที่ ไม่ทำลายแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของไทย" นายพิพัฒน์ กล่าว