ช่วงนี้เป็นช่วงที่เกษตรกร ในหลายพื้นที่มีการปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งสภาพอากาศที่แปรปรวน มีความชื้น เย็น ทำให้หลายพื้นที่เกิดการระบวดของ “แมลงบั่ว” โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานี และ จังหวัดเลย กรมส่งเสริมการเกษตร จึงย้ำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเฝ้าระวัง และ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ ให้คำแนะนำ ในการป้องกันกำจัดให้กับเกษตรกร รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ และ วิธีการในการป้องกันกำจัดแมลงบั่วอย่างสม่ำเสมอแล้ว
รู้จักแมลงบั่ว ตัวร้ายทำลายข้าว
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า แมลงบั่วจะอาศัยและเจริญเติบโตอยู่บนพืชอาศัยจำพวกข้าวป่าและหญ้าต่าง ๆ 1 - 2 ชั่วอายุ จนกระทั่งเริ่มมีการปลูกข้าวในฤดูฝน ก็จะออกเป็นตัวเต็มวัยลักษณะคล้ายยุงตัวสีส้ม โดยการระบาดของแมลงบั่ว มักพบระบาดมากในระยะข้าวแตกกอ
ซึ่งขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่อยู่ในระยะกล้าจนถึงแตกกอ โดย "แมลงบั่ว" จะคลานลงไปที่ซอกของใบยอด และ กาบใบข้าว เข้าทำลายยอดที่กำลังเจริญ สามารถสังเกตได้จากหลอดลักษณะคล้ายหลอดหอมซึ่งจะปรากฎภายใน 1 สัปดาห์หลังจากแมลงบั่ววางไข่
หากสำรวจพบควรรีบกำจัด ซึ่งเมื่อตัวหนอนเข้าไปทำลายจุดเจริญของข้าวแล้วจะทำให้ต้นข้าวและกอข้าวแสดงอาการแคระแกร็น เตี้ย ลำต้นกลม มีสีเขียวเข้ม ยอดที่ถูกทำลายไม่สามารถออกรวงได้ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงอย่างมาก เกษตรกรจึงควรหมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันกำจัดศัตรูพืชไม่ให้ก่อความเสียหายได้อย่างทันท่วงที
แนวทางป้องกัน ก่อนสายเกินแก้
ในส่วนของแนวทางการแก้ไขและป้องกัน อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เกษตรกรไม่ควรหว่านข้าวหรือปักดำข้าวถี่เกินไป และ ควรหมั่นกำจัดวัชพืช รอบแปลงนา เช่น ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าไช หญ้าชันอากาศ เพื่อทำลายพืชอาศัยของแมลงบั่ว
หากพบการเข้าทำลายของแมลงบั่ว ให้ถอนต้นที่พบหลอดของแมลงบั่วออกจากแปลงนาไปทำลาย รวมถึงใช้กับดักแสงไฟล่อตัวเต็มวัยในช่วงเวลา 19.00 - 21.00 น. มาทำลาย รวมทั้งควรอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติในแปลงนา เช่น แมงมุม และแตนเบียนของแมลงบั่ว ซึ่งจะช่วยควบคุมการระบาดได้
ทั้งนี้ ศัตรูข้าวอย่างแมลงบั่วมักพบมากในสภาพที่มีความชื้นสูง เมฆมากหรือมีฝนตก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีพื้นที่เป็นเขาหรือมีแนวเขาล้อมรอบ ทำให้มีความชื้นสูงเหมาะแก่การเจริญเติมโตของแมลงบั่ว เช่น บริเวณ จังหวัดตาก แพร่ ลำปาง น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ เลย อุบลราชธานี หนองคาย นครพนม และจังหวัดสกลนคร
อย่างไรก็ตาม การปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องไม่พักนา จะทำให้เสี่ยงที่แมลงบั่วจะเข้าทำลายแปลงนาในรอบปลูกต่อไปได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เกษตรกรปลูกตามฤดูการเพาะปลูกที่เหมาะสม 2 ช่วงคือ ข้าวนาปี หรือข้าวนาน้ำฝน ที่เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม และเก็บเกี่ยวสิ้นสุดไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ และข้าวนาปรัง คือ ข้าวที่ปลูกนอกฤดูการทำนาปกติ ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม
โดยในช่วงพักนา ให้หันมาปลูกพืชอื่นทดแทน เช่น ทดแทนการทำนาปรัง เช่น แตงโม ถั่ว และพืชใช้น้ำน้อยอื่นที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยตัดวงจรการระบาดของแมลงบั่ว และแมลงศัตรูข้าวอื่นๆ ซึ่งช่วยลดปัญหาศัตรูพืชลงได้ และยังเป็นการป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงหน้าแล้งอันจะทำให้ผลผลิตการเกษตรเสียหายด้วย