สำหรับราคาสินค้าต่างๆ ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งเนื้อหมู ไก่ และผลไม้มงคลต่างๆ ในปีนี้พบว่าปรับราคาสูงขึ้นไม่มากนัก โดยเฉพาะผลไม้มงคล อาทิ กล้วยหอม ส้ม สาลี่ แอปเปิ้ล ชมพู่ องุ่น ฯลฯ ราคาขายเฉลี่ยขึ้นจากช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน 5–10 บาท ส่วนหมูเนื้อไม่ได้ปรับปรับราคา เนื่องจากมีการปรับขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ชิ้นส่วนเนื้อหมูสำหรับไหว้ ทุกอย่างปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 10 เช่น หมูสามชั้น เนื้อสะโพก
และเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนปีนี้ สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 คลี่คลาย ทำการค้าขายและเศรษฐกิจดีขึ้นจาก 2–3 ปีที่ผ่านมา สังเกตได้ว่าชาวไทยเชื้อสายจีนซื้อของเซ่นไหว้เพิ่มมากขึ้น ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายเหมือนปีก่อนๆ ส่วนผู้ที่มีฐานะดีก็จะซื้อของเซ่นไหว้เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะเชื่อว่าการเพิ่มของเซ่นไหว้จะทำให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปเรื่อยๆ อีกด้วย
สำหรับวันตรุษจีนในปี 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ชาวจีนทุกคนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก มีการหยุดงานหลายวัน เพื่อเตรียมจัดงานปีใหม่ มีการทำความสะอาดบ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อย
สำหรับปฎิทินในวันตรุษจีน 2566 มีดังนี้ วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 เป็นวันจ่าย วันจ่ายจะเป็นวันที่ผู้มีเชื้อสายจีนจะไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่างๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน , วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 เป็นวันไหว้ ถือเป็นวันสิ้นปี จะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ตามธรรมเนียมปฏิบัติ และวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 เป็นวันเที่ยว คือวันปีใหม่ หรือ วันตรุษจีน โดยทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม โดยเฉพาะสีแดง สีแห่งความเป็นมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีน และพากันออกไปท่องเที่ยว ไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ รวมถึงงดการทำบาปทั้งปวงด้วย เพราะถือว่าเป็นวันแห่งสิริมงคล