svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค" เดือนธ.ค.ปี 65 แตะระดับ 49.7 สูงสุดรอบ 25 เดือน

12 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ม. หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. ปี 65 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ 49.7 สูงสุดในรอบ 25 เดือน จากการคลายความกังวลสถานการณ์โควิด-19 และ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร็ว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2565 ว่า อยู่ที่ระดับ 49.7  จาก ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สูงสุดในรอบ 25 เดือน  เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นชจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย



รวมถึงสถานการณ์โควิดในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงอย่างมาก จากช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างมีนัยสำคัญ

 

โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 43.9 47.0 และ 58.1 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนพฤศจิกายน ที่อยู่ในระดับ 42.0 45.2 และ 56.4 ตามลำดับ

แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต

สำหรับ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น จากระดับ 32.6 เป็น 34.6 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 สูงสุดในรอบ 21 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา

โดยปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 55.2 มาอยู่ที่ระดับ 56.9 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกรายการ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น และจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับในไตรมาสแรกของปี

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ใกล้กลับมาสู่ภาวะปกติ และเริ่มมีความเป็นไปได้สูง ที่จะขยายตัวได้ถึง 4% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6% เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนที่มาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งบรรยากาศเศรษฐกิจโลกไม่ทรุดตัวรุนแรง จากความกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลง และราคาน้ำมันที่ไม่แพงเกินไป ประกอบกับไทย ส่งออกได้ 1-2%  และการเลือกตั้ง ที่จะมีเม็ดเงินมากระตุกเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง ล้วนเป็นปัจจัยบวก ที่ทำให้เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี

logoline