ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจ พัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน ภาพรวมของไตรมาส 4 ปี 2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.5 ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.0 แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ซึ่งสะท้อน ให้เห็นว่าผู้ประกอบการ ในภาพรวม ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงเล็กน้อยในไตรมาสนี้ พบว่ามาจากความเชื่อมั่นในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงาน และ การเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ ที่ลดลงระหว่าง -1.7 ถึง -2.3 หน่วย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากภาวะทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในประเทศ
แต่มีความเชื่อมั่นในด้านการลงทุน และ ต้นทุนผลประกอบการ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.8 และ 4.4 หน่วย ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนว่า ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลยังคงมีความมั่นใจในการลงทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในปี 2566
เมื่อจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในไตรมาส 4 ปี 2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.2 ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 58.0 ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงาน และการเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัททั่วไป ในไตรมาส 4 ปี 2565 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 46.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แต่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มนี้ยังมีความกังวลต่อปัจจัยลบที่เกิดขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 60.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.9 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โดยความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นทั้งในด้านการลงทุน การจ้างงาน ต้นทุนการประกอบการ และ การเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ ผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม ที่ได้รับผลจาการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการเปิดประเทศของจีน
ขณะที่ด้านผลประกอบการ และ ยอดขาย ลดลงจากไตรมาสก่อน -2.1 และ -3.0 หน่วยตามลำดับ เนื่องจากการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการ LTV ที่ได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และการที่จะมีการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 1% จากที่เคยลดให้ถึง 0.01% ในช่วงปี 2563 - 2564