svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รัฐบาลเดินหน้าเร่งดึงต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์

29 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐบาลเดินหน้าแผนอสังหาฟื้นเศรษฐกิจเร่งดึงต่างชาติพำนักไทยระยะยาว เล็งให้ต่างชาติซื้อบ้านอยู่อาศัยได้ เอกชนแนะทางออกเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพิ่มขีดแข่งขันประเทศไทย กระทุ้งรัฐยกเครื่องกฎหมาย สิทธิประโยชน์ ดึงต่างชาติ ลงทุน ซื้อที่อยู่อาศัย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “อสังหาริมทรัพย์...พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” ว่าไทยมีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ มีคุณภาพ น่าอยู่ น่าอาศัยมีศักยภาพสูงในการเป็นบ้านหลังที่ 2 สถานที่ทำงานแห่งที่ 2 ของชาวต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ศึกษาประเด็นนี้ รวมทั้งวางกรอบแนวทางส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติความพร้อม มาร่วมอยู่อาศัยและพัฒนาประเทศไทยผ่านมาตรการวีซ่าระยะยาว (LTR Visa) ดึงดูดชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ

รัฐบาลเดินหน้าเร่งดึงต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์

นอกเหนือจากมาตรการวีซ่าระยะยาว อีกประเด็นสำคัญคือการครอบครองที่ดินจะปรับแก้ไขอย่างไร ต้องชั่งน้ำหนัก เปรียบเทียบประเทศต่างๆ ผลประโยชน์ ข้อดี ข้อเสีย ในเบื้องต้นมองว่าการขยายอายุสัญญาเช่าน่าจะง่ายกว่าเปิดให้ซื้อทั้งประเทศ โดยภาพรวมรัฐบาลมีนโยบายกำกับดูแลทั้งระบบตั้งแต่การเหยียบแผ่นดิน การเข้ามาพำนักอาศัย การเปิดบัญชี การซื้ออสังหาฯ ที่อยู่อาศัย การเข้าเรียนของบุตรหลาน เพื่อสร้างความสะดวกตลอดเส้นทางรองรับ เรียกว่าดูแลทั้งโซลูชั่น เมื่อเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว สิ่งที่ต้องดูแลต่อไปให้อยู่ในกติกา เช่น ภาษีมรดก

นับเป็นโอกาสสำคัญในการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย วางกรอบกติกาให้เกิดความสมดุลระยะยาว ซึ่งโค้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีโอกาสหารือภาคเอกชนหากมีจุดยืนและแนวทางชัดเจนที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมเชื่อว่าจะขับเคลื่อนกรอบปฎิบัติต่างๆ ได้ด้วยดี ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในไทยมานานทั้งในรูปแบบนอมินี หรือการถือครองในรูปแบบต่างๆ แต่สะท้อนว่าเขายอมเสี่ยงและใช้เงินเก็บจำนวนไม่น้อยซื้อที่อยู่อาศัยในไทย การถือครองและการอยู่อาศัยเป็นการคัดกรองระดับหนึ่งว่าชาวต่างชาติรักประเทศไทยมากๆ

 

นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ระบุ เพื่อให้เกิดการร่วมมือกับภาครัฐและธุรกิจเอกชนในการเพิ่มศักยภาพพัฒนาภาคอสังหาฯ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผลักดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำเป็นอย่างยิ่งต้องเร่งรัดการพิจารณาปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ระเบียบต่างๆ พร้อมดึงกำลังซื้อต่างชาติเข้ามา แนวทางสำคัญ เช่น การขยายอายุสัญญาเช่าอสังหาฯ ได้เกิน 30 ปี ซึ่งในต่างประเทศปล่อยสูงถึง 999 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน

 

และรัฐควรนำเงินคงค้างในระบบการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปช่วยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) พัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทเช่า เหมือนในญี่ปุ่น จีน เพื่อให้คนที่อยู่ในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างสมดุลให้กับเมือง นอกจากนี้ถ้าดึงนักท่องเที่ยวเข้าจะช่วยเอสเอ็มอี มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมกับการชักชวนกลุ่มผู้มีฐานะมั่งคั่งจากกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศอื่นๆ มาใช้ชีวิตในเมืองไทย

ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ศุภาลัย ประทีป ตั้งมติธรรม ระบุ ตลาดผู้ซื้อต่างชาติ หลังจากไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวมากว่า 20 ปี สามารถอาศัยจุดแข็งเรื่องไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน ยิ้มสยาม อาหารอร่อย ค่าใช้จ่ายถูก และมีมาตรการส่งเสริมของภาครัฐมาช่วยสนับสนุนได้ เพื่อยกระดับให้เป็น“เมืองนานาชาติ”ผลักดันภาคอสังหาฯเติบโตสู่“ตลาดโลก” (Global Market) เหมือนกับเมืองใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เช่น ดูไบ และอาบูดาบี ซึ่งปัจจุบันชาวต่างชาติอาศัยอยู่ 80%

ถ้าส่งเสริมการขายให้ชาวต่างชาติได้ เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว เหมือนกับส่งเสริมการส่งออกการลงทุนและการท่องเที่ยวอย่างถาวร ที่จริงเราควรทำให้ไทยเป็นโกลบอลมาร์เก็ตเหมือนดูไบ นิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ หรือเซี่ยงไฮ้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเราเฟื่องฟู หลายคนอาจพูดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขายชาติแต่ผมมองว่าเราไม่ได้ขายเสรีภาพ แต่เป็นสิ่งที่ไทยได้ประโยชน์มากกว่า

 

สำหรับแนวโน้มการพัฒนา“ที่อยู่อาศัย”ในปัจจุบัน มีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย อาทิ ที่ดินราคาแพงขึ้น รถติด ในเมืองมีมลภาวะมากขึ้น เทคโนโลยีเปลี่ยนไป ครอบครัวมีลูกน้อยลง มีผู้สูงวัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยในไทยมากขึ้นจากความเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของโลก

logoline