รายงานข่าวแจ้งว่า เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ประกาศแจ้งสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ปรับขึ้นราคา
โดยปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ต่อฟอง หรือ 6 บาทต่อแผง (30 ฟอง) จาก 3.40 บาท เป็น 3.60 บาทต่อฟอง มีผลวันนี้ ( 6 ม.ค.) เป็นต้นไป
ทั้งนี้นับเป็นการปรับราคาครั้งแรกของปี 66 หลังจากวันที่ 25 พ.ย.65 ได้มีการปรับลดลง 20 สตางค์ต่อฟอง หรือ 6 บาทต่อแผง จาก 3.60 บาทต่อฟอง มาอยู่ที่ 3.40 บาทต่อฟอง
สำหรับสาเหตุการปรับขึ้นราคาครั้งนี้สหกรณ์ฯแจ้งว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง และราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก็ปรับราคาขึ้นจากกก.ละ 9.30 บาท เป็น 13.50 บาท ทำให้ผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นได้
นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง กล่าวว่า 4 สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่สุพรรณบุรี แจ้งราคาแนะนำไก่ไข่คละหน้าฟาร์มเกษตรกร วันนี้ (6 ม.ค.) จะมีการปรับราคาไข่ไก่ขึ้น 20 สตางค์ต่อฟอง จาก 3.40 บาทต่อฟอง เป็น 3.60 บาทต่อฟอง เป็นผลมาจากราคาอาหารสัตว์มีการปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงไม่ไหว จำเป็นที่จะต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น
ขณะที่นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้ตรวจสอบแล้วว่า การปรับราคาไข่ไก่ดังกล่าวเป็นไปตามกลไกตลาด สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอาหารสัตว์ และยังไม่เกินราคาที่กรมการค้าภายในกำกับดูแลอยู่ จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลว่าราคาไข่ไก่จะสูงจนเป็นภาระผู้บริโภค
นอกจากนี้เป็นผลจากกรมปศุสัตว์ดำเนินมาตรการลดปริมาณไข่ไก่สะสม โดยขอความร่วมมือผลักดันส่งออก และปลดแม่ไก่ยืนกรงก่อนกำหนด ส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่ในระบบลดลง เสถียรภาพการผลิตและราคาจึงเริ่มปรับเข้าสู่ระดับสมดุลในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันเมื่อเดือนพ.ย. 65 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับลดราคาไข่ไก่ลงฟองละ 20 สตางค์ต่อฟอง มาอยู่ที่ 3.40 บาทต่อฟอง เนื่องจากผลผลิตเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสภาพภูมิอากาศเหมาะสมกับการเลี้ยงไก่ไข่
อย่างไรก็ดี กรมฯ จะติดตามราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค
สำหรับประชาชนที่พบเห็นการฉวยโอกาสจำหน่ายเกินสมควร ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภคสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือแจ้งต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยหากมีการจำหน่ายสินค้าเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ