"ก้าวไกล" เปลี่ยนโทนสีพรรค-เปิดแคมเปญ "ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า"

พรรคก้าวไกลจัดงานเปิดแคมเปญในการเลือกตั้งใหญ่ ปี 2566 ในแนวคิด "ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า" รวมถึงแนวทางการปฏิรูปพรรค 

บรรยากาศในงานมาในธีมงานคอนเสิร์ต ปิดไฟมืด มีสมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัครมาร่วมงาน ซึ่งกิจกรรมเริ่มจาก นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นร้องเพลงทุ่งฝันวันใหม่ ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้มาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จากนั้นพิธีกรในงาน "นายกรุณพล เทียนสุวรรณ" รองโฆษกพรรค กล่าวทักทายสมาชิกพรรค บอกว่าวันนี่มีการเปลี่ยนสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำพรรคใหม่ เป็นสีส้มที่สดใสขึ้น พร้อมรับกับการเลือกตั้ง ภายในแนวคิด "ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า"

จากนั้น"นายพริษฐ์  วัชรสินธุ์" หรือไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์คนแรก ระบุว่า สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้พรรคก้าวไกลตกผลึก เป็นพรรคของประชาชนมากขึ้นคือการมีส่วนร่วมกับประชาชน ซึ่งพรรคได้ริเริ่มและดำเนินการทันที เราอยากเห็นประเทศไทยมีรัฐบาลที่สามารถตรวจสอบได้โดยประชาชน โดยตนขอยกการมีส่วนร่วมที่ทำให้ประเทศดีขึ้น ได้แก่ การมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชน / การมีส่วนร่วมสนับสนุนพรรค / และการมีส่วนร่วมตรวจสอบผู้แทน 

"พรรคนี้เป็นพรรคของคุณครับ ความฝันนี้เป็นของคุณ มาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าได้ และมันจะเกิดขึ้นได้เพราะคุณครับ"

ขณะที่"นายชัยธวัช ตุลาธน" เลขาธิการพรรคก้าวไกล ประกาศยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลว่าไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนประเทศให้ก้าวหน้า อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน 

"นายชัยธวัช" ระบุด้วยว่า ประเทศไทยถอยไปไกลกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว 8 ปีภายใต้ระบอบประยุทธ์ ประเทศของเรา ถอยหลังจนไปอยู่ปากเหว ในทุกด้าน การเมืองตกต่ำ ประชาชนตกยาก เศรษฐกิจตกขบวน หลังการรัฐประหาร พวกเขาเคยบอกพวกเราว่า จะขอเวลาอีกไม่นาน จะเข้ามายุติความขัดแย้งในสังคม จะเข้ามาปราบนักการเมืองโกง จะขอปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริง พวกเขากลับสร้างระบอบการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ สถาปนาอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน

"แต่พี่น้องที่รักทุกท่านครับ พวกเราอย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะเราปล่อยให้ประเทศไทย ถอยหลังไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว และความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดขึ้นได้  ถ้าพวกเราช่วยกันเพิ่มความเปลี่ยนแปลงให้มากขึ้น คนละไม้คนละมือ"

ปิดท้ายด้วย"นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรค กล่าวด้วยสีหน้าสดใสว่าการพูดวันนี้ไม่มีสคริปต์ มองว่างานในวันนี้ถือเป็นพลังงานที่ดีมาก พร้อมกับขอให้ทุกคนฟังตนหน่อย

"ผมจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องขอถึง 8 ปี ขอแค่ 8 นาที ช่วยฟังสิ่งที่ผมอยากจะพูดหน่อย อันนี้เป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ใจบันดาลแรง"

"นายพิธา" หยิบยกปัญหาเกี่ยวกับการจัดการน้ำมาบรรยาย ระบุว่า เป็นเพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่สำคัญของประเทศ โดยในกรุงเทพฯ บางพื้นที่ยังใสแต่ในต่างจังหวัด แต่ละบ้านต้องมาแข่งกัน ว่าน้ำประปาจะสีอะไร ใช้ซักผ้าไม่ได้ ใช้ล้างจานไม่ได้ ใช้อาบน้ำไม่ได้ ในประเทศอื่นๆ เขาควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยของน้ำประปาโดยใช้ “แรงดันน้ำ” ที่ปลายท่อ ทำให้แบคทีเรียและความสกปรกในท่อก็จะยิ่งเข้ามาปนอยู่ในน้ำประปาได้ยาก ปัญหานี้แสดงถึงความไม่เท่ากันที่รัฐบาลต้องผลักดัน

"นายพิธา" ย้ำว่า ในการเลือกตั้งปี 66 จะเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราชาวก้างไกล ว่าประเทศไทยจะย่ำอยู่กับที่ จะได้แค่เปลี่ยนรัฐบาล หรือจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งประเทศได้หรือไม่ ถ้าพี่น้องประชาชนเชื่อว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงทั้งประเทศ ประเทศไทยถึงเดินหน้าต่อไปได้ เลือกตั้งครั้งต่อไปเลือกเลือกก้าวไกลให้ไทยก้าวหน้า แล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนไป ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

"นายพิธา" ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า "คบเพลิงอยู่ในมือของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมไม่ได้มาเล่นๆ และพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทันสมัยและประเทศไทยเท่าเทียมกัน แล้วเจอกันที่ทำเนียบรัฐบาลครับ"

ชมคลิป >>>

ชมคลิป 2 >>>