55 ปี สะพานสารสิน กับโศกนาฏกรรมความรักคู่หนุ่มสาวที่ไม่สมหวัง ดำดิ่งลงทะเล

หากจะพูดถึงสุดยอดโศกนาฏกรรมความรักที่ไม่สมหวังขึ้นมาสักเรื่อง หนึ่งในนั้นคนต้องนึกถึงตำนานเรื่องเล่าเหตุการณ์จริงของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ตัดสินใจกระโดด “สะพานสารสิน” เพื่อพิสูจน์ความเป็นนิรันดร์ของความรักรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

 

 

เมื่อความรักของพวกเขาถูกขัดขวาง เพียงแค่ฐานะทางสังคมไม่เท่าเทียมกัน สุดท้ายจึงตัดสินใจใช้ผ้าขาวผูกมัดตัวติดเข้าด้วยกัน ก่อนจะกระโดดลงจากสะพานสูงลงสู่สายน้ำอันเชี่ยวกราก โดยใช้ท้องทะเลเป็นสุสานพิสูจน์ตำนานรักที่ไม่มีวันพลัดพรากจากกันตราบนิจนิรันดร์

 

 

แต่ก่อนที่เราจะไปดื่มด่ำกับตำนานความรักดังกล่าวให้ลึกลงกว่านี้  เบื้องต้นเรามาทำความรู้จักกับ “สะพานสารสิน” ที่เป็นจุดเกิดเหตุกันก่อน มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งวันนี้ในอดีต คือวันที่เปิดใช้งานสะพานแห่งนี้เป็นครั้งแรก

สำหรับสะพานสารสิน เป็นจุดเชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต เป็นสะพานแรกที่มีการสร้างเพื่อข้ามระหว่างสองจังหวัด เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าฉัตรไชยและบ้านท่านุ่นของจังหวัดพังงา อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร

 

สะพานแห่งนี้ตั้งชื่อตามนามสกุลของนายพจน์ สารสิน อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 9 ของไทย ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ เริ่มสร้างครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2494 โดยเปิดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้าง แต่ปรากฏว่าการก่อสร้างในระยะเริ่มต้นมีปัญหา เพราะความไม่ชำนาญการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างอีกครั้งโดยบริษัท Cristiani & Nelson (Thailand) Ltd. จนสำเร็จสามารถเปิดใช้การได้ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 28,770,000 บาท

 

สะพานสารสิน มีความยาวทั้งหมด 660 เมตรเป็นทางผิวคอนกรีต 360 เมตร ตัวสะพานคอนกรีตอัดแรงยาว 300 เมตร กว้าง 11 เมตร เป็นทางรถวิ่งกว้าง 8 เมตร ทางเท้าข้างละ 1.5 เมตร รับผิดชอบดูแลโดยกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม หากนับถึงวันนี้ 7 กรกฎาคม 2565 สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานรวมแล้ว 55 ปีพอดิบพอดี

 

 

วกกลับมาถึงเรื่องที่เราเกริ่นเอาไว้ตอนต้น กับตำนานความรักที่ไม่สมหวังของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2516 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ (บางแห่งอ้างเป็นวันที่ 20) เหตุเกิดช่วงเที่ยงๆ  ตำรวจสายตรวจสน.ท่าฉัตรชัย  ได้รับแจ้งมีหนุ่มสาวกระโดดสะพานลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง

 

สืบสาวราวเรื่อง ทราบชื่อฝ่ายชายคือ โกดำ (ดำ แซ่ตัน) ฝ่ายหญิงชื่อกิ๋ว (กาญจนา แซ่หงอ) ทั้งคู่มีความแตกต่างกันทางฐานะ โกดำเป็นเพียงคนขับรถสองแถวรับจ้างและรับจ้างกรีดยาง หาเช้ากินค่ำ ขณะที่กิ๋วมีฐานะที่ดีกว่า มีอันจะกิน และเป็นนักศึกษาวิทยาลัยครู โดยที่ผู้ใหญ่ทางบ้านของกิ๋วได้กีดกันทั้งสองคบหากัน

 

 

ตั้งแต่ทั้งคู่รู้จักชอบพอกัน ดำได้ขับรถส่งกิ๋วเกือบทุกวัน กระทั่งได้เสียกันก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน เมื่อพ่อแม่ของฝ่ายหญิงทราบเรื่อง จึงสั่งให้ลูกสาวตัวเองหยุดเรียนทันที ทั้งๆที่ใกล้จะสอบอยู่แล้ว ให้อยู่แต่บ้าน เพื่อไม่ไม่ให้ติดต่อกับฝ่ายชายโดยหมายหมั้นปั้นมือเตรียมคลุมถุงชนแต่งงานกับชายหนุ่มที่คู่ควรกัน เพื่อนบ้านใกล้เคียงมองเห็นในความรักแท้ของคนทั้งสอง บางคนลงทุนบากหน้าไปเจรจากับพ่อแม่ฝ่ายหญิงให้ แต่ก็ถูกตอกกลับหน้าหงายมาแทบทุกราย

 

ส่วนฝ่ายชายหรือดำเอง ก็ใช่ว่าจะไม่พยายามพิสูจน์ความรักแท้ของตัวเอง แต่ทำทุกวิถีทางก็ไม่สำเร็จ  กระทั่งก่อนวันเกิดเหตุ 2-3 วัน  ดำใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นาน จึงตัดสินใจพาฝ่ายหญิงหนีไปอยู่ที่บ้าน แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงได้แจ้งความให้ตำรวจติดตาม เมื่อดำรู้เรื่องดังกล่าวจึงกลัวความผิด จึงนำตัวกิ๋วไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ตัวเองในตัวเมืองภูเก็ต แต่เรื่องกลับไม่เป็นใจ พ่อแม่ของดำเองก็ไม่ชอบกิ๋ว และโกรธลูกชายที่ก่อเหตุแบบนี้ ทำให้ทั้งคู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนสวรรค์ช่างโหดร้ายไม่มีทางออกเรื่องความรักให้กับพวกเขาบ้างเลย  

 

 

กระทั่งตัดสินใจทิ้งจดหมายลาตาย เพื่อให้ตำรวจใช้เป็นหลักฐานในเวลาต่อมา เพื่อพิสูจน์ว่าทั้งคู่มีความประสงค์จบชีวิตด้วยตัวเองด้วย ไม่ใช่เหตุฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุใดแต่อย่างใด

 

 

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2516 ทั้งคู่ตัดสินใจกระโดดน้ำตายที่กลางสะพานสารสิน ด้วยการใช้ผ้าขาวม้ามัดตัวทั้งสองเข้าด้วยกัน จมลงสู่สายน้ำอันเชี่ยวกราก โดยใช้ท้องทะเลเป็นสุสานของความรักที่ไม่สมหวัง ก่อนจะมีคนพบศพของทั้งคู่ในเวลาต่อมา

 

หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้มีเรื่องเล่าต่อๆกันว่า ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง มักจะมีกระต่ายสีขาวตาสีแดงคู่หนึ่ง ออกมาเที่ยวเล่นอยู่คู่กันที่สะพานแห่งนี้เป็นประจำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของทั้งคู่มาพรอดรักกัน

 

นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อต่อๆกันอีกว่า ใครที่สัญจรผ่านเส้นทางนี้หากอยากสมหวังเรื่องความรัก ให้กลั้นหายใจจนสุดปลายสะพานอีกด้าน แล้วขอพรเกี่ยวกับความรัก ดวงวิญญาณของนายดำและสาวกิ๋ว มักจะช่วยให้สมหวังแทบทุกราย แต่ก็มีคนแอบแซวเหมือนกัน ทำได้เฉพาะตอนขับรถเท่านั้นนะ หากใช้วิธีเดิน ชีวิตก็อาจจะม้วยมรณาก่อนถึงปลายสะพานก็เป็นได้

 

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์เศร้าสลดผ่านไป เรื่องราวนี้ถูกบันทึกเป็นตำนานโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เรื่องสะพานรักสารสิน ใน พ.ศ. 2530 นำแสดงโดย รอน บรรจงสร้าง และจินตรา สุขพัฒน์ และสะพานรักสารสิน ในปี พ.ศ. 2541 นำแสดงโดย นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล และคทรีน่า กลอส ซึ่งเป็นละครโทรทัศน์ ออกอากาศทางช่อง 3

 

 

 

นอกจากนั้น ยังมีการใช้ตำนานรักนี้แต่งออกมาเป็นบทเพลงทั้งลูกทุ่งและลุกกรุง เช่นเพลง สะพานรักสารสิน โดยวงสิมิลัน ในปี พ.ศ. 2537 เป็นต้น

 

 

ปัจจุบัน สะพานสารสิน ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ถูกปรับปรุงเป็นสะพานคนเดินและศาลาพักผ่อนชมทิวทัศน์ มีการออกแบบให้สอดคล้องกับงานสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส ผสมผสานกับรูปแบบอาคารหลังคาทรงปั้นหยาแบบภาคใต้  โดยมีคำกล่าวติดปากกันว่า ใครเดินทางมาภูเก็ตหรือพังงาหากไม่ได้มาเช็กอินจุดนี้แล้วก็เหมือนมาไม่ถึง !!

 

 

 

 

เนื้อเพลง : สะพานรักสารสิน

ศิลปิน: สิมิลัน

 

เป็นตำนาน เล่าขานผ่านมานมนาน

บอกลูกหลาน รุ่นหลัง ฟังให้ดี

เรื่องความรัก ความสุข โสภาโสภี

จบลงที่ ความโศกเศร้า

ของชายหนุ่มหญิงสาว รักกันมาหลายปี

เป็นความรักคงที่ และมั่นคง

น้องเป็นครู พี่เป็นเพียง คนขับรถจน ๆ

จะขยันอดทนเพื่อเธอนั้น

เหนื่อยเพียงไหน ทนเฝ้าทำเพื่อเธอทุกอย่าง

สิ่งใดขวาง ฉันจะพร้อม สู้ไป

มีความฝันเป็นพลัง เพื่อเธอ ยิ่งใหญ่

จะก้าวไป พร้อมกับเธอผู้เดียว

แล้วที่สุดเรื่องราว มรสุมผ่านมา

พ่อแม่จ๋าโปรดเห็นใจ ข้าที

รักกันอยู่ พรากกัน แยกกันช้ำชีวี

เกิดเป็นคนชาตินี้ มีแต่ซวย

น้องโดนเฆี่ยน น้ำตาไหลนอง

สองแก้มเหมือนมีดแทงเฉือนกลาง ใจพี่

เพราะความจน จึงต้องทนแค้นใจเหลือที่

จบแค่นี้ ลาที ความระทม

และสุดท้ายความเป็นคน ก็มาถึงที่สุด

แสนรันทดเกิดมา ชาตินี้

ผ้าขาวม้าพันผูก พร้อมใจน้องพี่

ฝากกายพลีใต้สะพานรักสารสิน

ย้อนมาสู่ ผู้คน ในยุคปัจจุบัน

คนเรานั้นมีแต่ความ หลอกลวง

สวมหน้ากากเข้าหา ใช้ปัญญาเข้าข่ม

รักระทมไม่มีความ แน่นอน

เป็นคนจนแต่ไม่จน จิตใจ

มีความรักมอบให้ แก่คน ทุกคน

ช่วยกันเถิดเพื่อพี่น้อง และคนจน ๆ

ผู้ที่ทุกข์ทน คือความรักที่แน่นอน

น้ำ ยังไหลไป ใคร เขาก็กล่าวขาน

เหมือน เป็นตำนาน

บอกลูกหลานถึงความรักที่ผ่านมา

ฟ้า มีแสงดาว คน เล่าขานกันมา

ความรักและน้ำตา บอกตำนานสะพานรักสารสิน

น้ำ ยังไหลไป ใคร เขาก็กล่าวขาน

เหมือน เป็นตำนาน

บอกลูกหลานถึงความรักที่ผ่านมา

ฟ้า มีแสงดาว คน เล่าขานกันมา

ความรักและน้ำตา บอกตำนานสะพานรักสารสิน

(คลิกฟังเพลง)