ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อในอดีตเมื่อ 111 ปีที่แล้ว 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือไทยขึ้นมา และถือว่าวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันลูกเสือแห่งชาติ
คำว่า "ลูกเสือ" มาจากภาษาอังกฤษว่า "Scout" ซึ่งมีความหมายตามตัวอักษรคือ
S ย่อมาจาก Sincerity แปลว่า ความจริงใจ
C ย่อมาจาก Courtesy แปลว่า ความสุภาพอ่อนโยน
O ย่อมาจาก Obedience แปลว่า การเชื่อฟัง
U ย่อมาจาก Unity แปลว่า ความเป็นใจเดียวกัน
การจัดตั้งลูกเสือในประเทศไทย
ใน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองเสือป่าขึ้น เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนได้เข้ารับการอบรม โดยมีจุดประสงค์ที่จะมุ่งอบรมจิตใจให้คนไทยรู้จักรักชาติมีมนุษยธรรม มีความเสียสละ สามัคคี และมีความกตัญญู
เมื่อกิจการของเสือป่าเจริญก้าวหน้ามั่นคงดีแล้วพระองค์ จึงทรงพระราชดำริว่า ควรจะได้มีการอบรมของเสือป่าด้วย ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 จึงมีพระบรมราชโองการจัดตั้งลูกเสือขึ้นในประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา จากนั้นนานาชาติในยุโรปจึงจัดตั้งกองลูกเสือของตนขึ้น ลูกเสือกลายเป็นองค์การสากลและมีความสัมพันธ์กันทั่วโลก เป็นสื่อผูกมิตรไมตรีกันโดยใช้กฎของลูกเสือ 10 ประการ ผูกสัมพันธ์กันไม่เว้นเชื้อชาติใด ศาสนาใดทั้งสิ้น ถือว่าลูกเสือทั่วโลกเป็นพี่น้องกันหมด
นอกจากนี้ยังพระราชทานคำขวัญเสือป่าเป็นคติประจำใจแก่ลูกเสือยึดถือและปฏิบัติว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” และทรงรับสั่งว่า “คติประจำใจนี้ไม่ใช่ยึดถือ แต่ในขณะที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือเท่านั้นลูกเสือทุกคนจะต้องยึดถือเป็นคติประจำใจไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแต่งตัวอย่างไร” คณะลูกเสือแห่งชาติจึงได้ถือกำเนิดตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพรมหากรุณาธิคุณ แก่กิจการลูกเสือ
ทั้งในส่วนของคณะลูกเสือไทย สำนักงานลูกเสือโลก และสำนักงานลูกเสือภาคพื้นเอเชีย – แปซิฟิก รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์กับคณะลูกเสือนานาชาติให้เป็นที่ประจักษ์ องค์การลูกเสือโลก จึงทูลเกล้าถวายตำแหน่งหัวหน้าผู้ให้การฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือและเครื่องหมายวูดแบดจ์สี่ท่อนกิตติมศักดิ์ ทูลเกล้าถวายตำแหน่งองค์อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ขององค์การลูกเสือโลก และทูลเกล้าถวายเหรียญสดุดีลูกเสือโลก