พร้อมรบ “เตีย เซ็ยฮา” จูบปากเวียดนาม “เตีย บัญ” ยุเสี่ยพัดโต้ข่าวสแกมเมอร์

13 พฤศจิกายน 2568 หนองจานสะเทือน เตีย เซ็ยฮา เตรียมซ้อมรบเขมร-เวียดนาม เตีย บัญ เปิดทางลี ยงพัด ใช้สื่อโต้ตำรวจไทยปมยึดทรัพย์สแกมเมอร์

 

บ้านใหญ่แซ่เตีย-แซ่ฮุน ยังเป็นเอกภาพ พร้อมรบไทย เพื่อรักษาอำนาจ ไม่แตกแยกตามกระแสข่าวอินฟลูฯฝั่งไทย

 

หลังเกิดเหตุทหารเขมรจัดฉากสร้างภาพชาวบ้านตกเป็นเหยื่อกระสุนทหารไทยที่บ้านเปรยจัน พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้นำคณะเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา-เวียดนาม ว่าด้วยมิตรภาพและการป้องกันชายแดน ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568

 

พล.อ.ฟาน วันยาง รมว.กลาโหมเวียดนาม ได้ให้การต้อนรับที่ด่านชายแดนบาแว็ต-ม็อกไบ ด่านชายแดนหมายเลข 171 จ.เต็ยนิญ ประเทศเวียดนามติดกับ จ.สวายเรียง ประเทศกัมพูชา

 

การพบกับ “ฟาน วันยาง” รมว.กลาโหมเวียดนาม “เตีย เซ็ยฮา” พยายามย้ำคำว่า “มิตรภาพแบบดั้งเดิม”

 

ในอนาคต กองทัพกัมพูชาและกองทัพเวียดนาม จะมีการซ้อมรบร่วมกันที่ จ.เต็ยนิญ ซึ่งสองชาติไม่ได้มีการซ้อมร่วมกันมานานหลายปีแล้ว

 

นอกจากเรื่องของ “เตีย เซ็ยฮา” ไปเวียดนาม ก็ยังมีข่าว “ลี ยงพัด” คนสนิท สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ โต้ตำรวจไทยจัดฉากสร้างเรื่องให้ตัวเขาเป็นแก๊งสแกมเมอร์ 

หวนจูบปากเวียดนาม
 

ถ้าจำกันได้วันที่ 14-15 ต.ค.2568 พล.ท.คำเลียง อุทะไกสอน รมต.ป้องกันประเทศ สปป.ลาว ได้เชิญ พล.อ.ฟาม วันยาง รมว.กลาโหมเวียดนาม และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ร่วมชมการฝึกซ้อม และประชุมกระชับความสัมพันธ์ 3 กองทัพ

 

พล.ท.คำเลียง อุทะไกสอน รมต.ป้องกันประเทศลาว กล่าวในที่ประชุมแลกเปลี่ยนของ 3 กองทัพ ดังมีใจความตอนหนึ่งที่ยืนยันว่า ความเป็นเอกภาพของ 3 ชาติอินโดจีน

 

“ประชาชน 3 ชาติอินโดจีน เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ต้านจักรพรรดิต่างด้าวผู้รุกรานตัวเดียวกัน ฉะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด  เงื่อนไขใด และระยะใด พวกเราไม่สามารถจะแบ่งแยกออกจากกันได้”

 

แม้ระยะหลัง กองทัพกัมพูชาจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพประชาชนจีน ถึงขั้นมีการซ้อมรบร่วมกัน แต่ต้นกำเนิดกองทัพกัมพูชาในปัจจุบัน ก็มาจากการวางรากฐานโดยกองทัพเวียดนาม

 

อย่าลืมว่า ต้นปี 2522 ทหารเวียดนามนับแสนคนได้เข้ายึดพนมเปญ และสนับสนุนกลุ่ม “เฮง สำริน เจีย ซิม ฮุน เซน” ขึ้นปกครองกัมพูชา

 

กองพลน้อยที่ 70 หน่วยองครักษ์สมเด็จฮุนเซนชุดแรก ก็ได้รับการฝึกฝนมาจากกองทัพเวียดนาม ก่อนจะพัฒนาเป็นหน่วยองครักษ์ HBQ 

แซ่ฮุน-แซ่เตียแนบแน่น
 

ขณะที่ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ทายาทบ้านใหญ่เกาะกง “เตีย บัญ” นำทหารไปซ้อมรบร่วมกับกองทัพเวียดนาม

 

ในพนมเปญ “ลี ยงพัด” นักธุรกิจคนดัง ฉายา “ราชาเกาะกง” ได้แถลงข่าวตอบโต้ปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทย ที่โยงเขากับเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์และฟอกเงิน

 

“เสี่ยพัด” ปฏิเสธรายงานข่าวที่อ้างว่า เจ้าหน้าที่ไทยบุกจู่โจมตรวจค้นสถานที่ต่างๆ 36 จุดและอายัดทรัพย์สินมูลค่า 400 ล้านบาท ตามคำกล่าวหาเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการสแกมออนไลน์แห่งหนึ่ง

 

“บ้านในกรุงเทพฯ บ้านหลังหนึ่ง และแปลงที่ดินในจังหวัดตราด รวมถึงสำนักงานแห่งหนึ่ง เป็นเพียงที่พักอาศัยและไม่เกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิงกับกิจกรรมผิดกฎหมายใดๆ” ลี ยงพัด กล่าวกับพนมเปญโพสต์

 

ดังที่รู้กันว่า ลี ยงพัด หรือพัด สุภาภา เป็นนักธุรกิจที่สนิทกับ สมเด็จฮุน เซน และ สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ

 

เปรียบเทียบกรณี “ก๊ก อาน” ที่ถูกตำรวจไทยตรวจค้นบ้านและยึดทรัพย์ กลับไม่ได้การแถลงข่าวผ่านสื่อเขมร เหมือนกรณี “ลี ยงพัด”

 

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า “เสี่ยพัด” และ “เตีย บัญ” มีความแนบแน่นกับอดีตนายทหารไทย และกลุ่มการเมืองไทย จึงพยายามส่งสัญญาณว่า อย่าตัดช่องการทูตลับ ด้วยการยัดเยียดข้อหา “เจ้าพ่อสแกมเมอร์”

 

ว่ากันว่า เสี่ยพัด และ เตียบัญ เป็นคนเกาะกง จึงมีญาติพี่น้องทางฝั่งไทย แต่ในทางการเมือง “บ้านใหญ่เกาะกง” ก็ยังเป็นหนึ่งเดียวกับตระกูล “ฮุน”

 

จริงๆแล้ว สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ เดินแนวทางประนีประนอม จึงยอมแบ่งปันอำนาจกับ สมเด็จฮุน เซน ร่วมมือกันปกปัก “ระบอบบ้านใหญ่” 2 ตระกูลมาจนถึงทุกวันนี้

 

มีอินฟลูฯไทยบางคนปั่นกระแส “ฮุนเซน-เตียบัญ” แตกแยก ถึงขั้นจะมีการหักโค่นกันเองนั้นเป็นข่าวเพ้อฝัน