แดงโดดเดี่ยว “มนพร” โดนปิดล้อม “ศุภชัย” ร่วมกล้าธรรม ยึดที่มั่นชายโขง

3 ตุลาคม 2568 พท.จะกลับมา มนพร มือขวา 2 ส. เจอกลปิดล้อม ศุภชัย ค่ายน้ำเงินจับมือกล้าธรรม เตรียมยึดนครพนม-มุกดาหาร

 

นายใหญ่ไม่ยอมแพ้ สุริยะ-มนพร จัดทัพอีสานใหม่ ถ่ายเลือดครั้งใหญ่ ปักหลักชนค่ายเนวิน และค่ายผู้กอง

 

พลันที่ แพทองธาร ชินวัตร ประกาศกร้าว “เพื่อไทยจะกลับมา” สังเวียนเลือกตั้งอีสาน ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นสนามใหญ่ มี สส.มากที่สุด

 

“เจ๊เดือน” มนพร เจริญศรี สส.นครพนม 3 สมัย อดีต รมช.คมนาคม คงได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพอีสาน ภายใต้การกำกับของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม

 

ผลงานเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 “เจ๊เดือน” ลงไปแสดงฝีมือเอง แม้จะแพ้แก่น้ำเงิน แต่ก็ได้คะแนนเท่าเดิม เรียกว่าปราชัยแบบไม่เสียหายเท่าไหร่

 

ที่น่าสนใจคือ ความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม ในพื้นที่นครพนม-มุกดาหาร

 

วันที่ 29 ก.ย.2568 ไตรสรณคมน์ หนองเรือง หรือ เลขาดำ มุกดาหาร ว่าที่ผู้สมัคร สส.มุกดาหาร เขต 1 ได้จัดงานฉลองวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม และแกนนำภูมิใจไทยนครพนม มาเป็นประธานในงานคืนนั้น

 

“เลขาดำ” เรียกอดีต สส.ศุภชัยว่า “พ่อแก้ว” โดยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน 

ศึกวัดบารมีแม่ทัพอีสาน
 

การเลือกตั้ง สส.นครพนม ปี 2569 คงเป็นสงคราม 2 ขั้วระหว่าง มนพร เจริญศรี ทีมแดง กับ “ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ ทีมน้ำเงิน

 

สมัยที่แล้ว สนามนครพนม มี สส. 4 คน ก็แบ่งกันไปพรรคละ 2 คน โดยค่ายแดง ปักธงเขต 1 ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ และเขต 2 มนพร เจริญศรี ค่ายน้ำเงิน ยึดเขต 3 นพ.อลงกต มณีกาศ และเขต 4 ชูกัน กุลวงษา

 

ที่น่าช้ำใจ ศุภชัย โพธิ์สุ แม่ทัพใหญ่น้ำเงิน และภรรยา พูนสุข โพธิ์สุ สอบตกทั้งคู่


ต้นปี 2568 “เบียร์” อนุชิต หงษาดี ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.นครพนม ในนามพรรคเพื่อไทย โดยเอาชนะ “ขวัญ” ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนม ลูกสาว “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ

 

โจทย์ใหญ่ของ “เจ๊เดือน” ต้องการยึด 4 ที่นั่ง สส.นครพนม ไม่ต้องแบ่งให้ทีมครูแก้ว เช่นเดียวกัน ค่ายน้ำเงินก็หวังรักษาที่นั่งเดิม และพาครูแก้วหรือสหายแสงกลับเข้าสภาฯ อีกรอบ 

น้ำเงินผนึกกล้าธรรม
 

สนามเลือกตั้งมุกดาหาร ผู้สมัคร สส.ทั้ง 2 เขต ก็อยู่ในการดูแลของ “เจ๊เดือน” ซึ่งต้องเจอคู่แข่งหน้าใหม่ฟอร์มสดจากพรรคกล้าธรรม

 

นั่นคือ ไตรสรณคมน์ หนองเรือง หรือ “เลขาดำ” ที่คลุกคลีอยู่ในการเมืองท้องถิ่นมานาน ควบคู่กับการทำธุรกิจหลายอย่าง และเตรียมจะลงสมัคร สส.มุกดาหาร เขต 1 (อ.เมือง อ.ดอนตาล และ อ.นิคมคำสร้อย)

 

“มาดามน้อย มุกดาหาร” อรกัญญา สะภา คู่ชีวิตของเลขาดำ จะลงสมัคร สส.มุกดาหาร เขต 2 (อ.ดงหลวง อ.คำชะอี และ อ.หนองสูง)

 

การเลือกตั้ง สส.มุกดาหาร สมัยที่แล้ว พรรคเพื่อไทยพ่ายทั้ง 2 เขต ซึ่ง สส.ทั้ง 2 เขต แบ่งกันไปคนละพรรคคือ เขต 1 วิริยะ ทองผา พรรคพลังประชารัฐ และเขต 2 ณกร ชารีพันธ์ พรรคประชาชน

 

เดิมทีพรรคเสื้อแดงผูกขาด สส.ทั้ง 2 เขตของมุกดาหาร มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2562 เนื่องจากฐานคนเสื้อแดงมุกดาหารแข็งแกร่งมาก

 

ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.มุกดาหาร “เลขาดำ” ได้หนุนช่วย วีระพงษ์ ทองผา อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมุกดาหาร เอาชนะ บุญฐิน ประทุมลี อดีต สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ชนิดคะแนนทิ้งห่างเท่าตัว

 

บุญฐิน ได้รับการหนุนช่วยจาก “เจ๊เดือน” แต่ก็สู้พลังบ้านใหญ่ตระกูล “ทองผา” และอานุภาพ “เลขาดำ” คนใจถึงใจใหญ่ไม่ได้

 

บังเอิญว่า นครพนมกับมุกดาหาร มีพื้นที่ติดต่อกัน การปรากฏตัวของครูแก้วที่บ้านเลขาดำอยู่บ่อยครั้ง ย่อมไม่ใช่สัญญาณที่ดีของ “เจ๊เดือน”

 

หาก “ครูแก้ว” จับมือ “เลขาดำ” ประสานการช่วยเหลือในทุกด้าน ที่มั่นหัวเมืองชายโขง 2 จังหวัด อาจตกเป็นของภูมิใจไทย และกล้าธรรม