ดีลพิสดาร “ธนาธร” โปลิตบูโรทำคลอด “อนุทิน 1” ส้มเสี่ยง วัดใจรัฐพันลึก

แฉวงใน ธนาธร คณะโปลิตบูโรเปิดดีลพิสดาร กำเนิดรัฐบาลอนุทิน ฐานเสียงส้มทรุดหนัก สส.หน้าใหม่เจ็บลึก

เปิดโฉมหน้าอนุทิน 1 รมต.คนนอกผสม ครม.ญาติกา เสียงยี้ดังกว่าเสียงเย้ กดดัน สส.พรรคสีส้ม ในฐานะคนร่วมทำคลอด

หลัง สส.พรรคประชาชน โหวต อนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ในเวลาไล่เลี่ยกัน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมเดินพรมแดงเข้ารับรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเรื่อง “อำนาจ ศรัทธา อนาคต” (Breaking the Cycle) ในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 33

เบื้องหน้าการทำ MOA ของพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยคือ การตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน นำโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

สำหรับคนวงในพรรคสีส้มต่างรับรู้ว่า 3 สหายคือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ชัยธวัช ตุลาธน และศรายุทธิ์ ใจหลัก ร่วมกับ “ผู้อาวุโส” กลุ่มหนึ่งได้เปิดดีลพิสดารกับ “คณะนำ” ของค่ายสีน้ำเงินไปเรียบร้อยแล้ว

การประชุมรับฟังความเห็น สส. และด้อมส้ม ล้วนเป็นกระบวนการเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของ “โปลิตบูโรสีส้ม”

มีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรคสีส้มจำนวนมาก ต่างรับไม่ได้กับการยื่นดาบอาญาสิทธิ์ให้กลุ่ม เนวิน ชิดชอบ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ยิ่งเห็น “ใบหน้า” รัฐมนตรี ที่มาจากระบอบญาติกา ยิ่งรู้สึกเจ็บใจเจ็บแค้น เหมือนพรรคสีส้มเสียรู้พรรคสีน้ำเงิน

ส้มไร้เดียงสาหรือไม่
 

ปฏิกิริยาหลังการตัดสินใจของพรรคประชาชน ย่อมได้รับก้อนอิฐมากกว่าดอกไม้ โดยเฉพาะ MOA ที่กลัวจะถูกต้ม และอาจมีการเบี้ยว ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญที่สองพรรคลงนามไว้

ขณะที่ ธงชัย วินิจจะกูล อดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 6 ตุลา กลับมีมุมมองว่า
 

“พรรคประชาชนไม่ได้ทิ้งหลักการ ไม่ได้ขายวิญญาณ ไม่ไร้เดียงสา และการกระทำของพรรคประชาชน ต่างลิบลับกับการข้ามขั้วแบบที่เพื่อไทยกระทำเมื่อปี 2566”
 

บรรดา “ผู้อาวุโส” กลุ่มหนึ่งที่เป็นคนเดือนตุลา และเป็นรุ่นพี่ของธงชัย ก็มีความคิดเห็นคล้ายกันว่า คนอย่าง ธนาธร ชัยธวัช และศรายุทธิ์ ไม่ไร้เดียงสา

ผู้อาวุโสมองว่า การแก้รัฐธรรมนูญนั้น ต้องต่อสู้กันยาวกว่า 4 เดือน แต่การเริ่มต้นตามความต้องการของพรรคประชาชน ไม่เสียหายอะไร และนำบางประเด็นไปหาเสียงช่วงเลือกตั้งได้

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผู้อาวุโส 3-4 คน ได้เป็นที่ปรึกษาทางความคิดการเมืองแก่ธนาธร และเพื่อนพ้อง มาตั้งแต่การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ จนถึงพรรคประชาชน
 

“โปลิตปูโรสีส้ม คงมองไกลไปถึงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า รัฐพันลึกคงถอยประเทศกลับไปเหมือนร้อยปีไม่ได้ จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันก็ทำไม่ได้ การประนีประนอมย่อมเป็นทางออกที่ดีที่สุด” แหล่งข่าวกล่าว 
 

ปรากฏการณ์บุญสิน
 

ในชั่วโมงนี้ พรรคประชาชนได้รับผลของการตัดสินใจ หนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อผู้สนับสนุนได้แสดงความโกรธเกรี้ยวผิดหวัง โดยเฉพาะนักกิจกรรมการเมือง และนักวิชาการประชาธิปไตย ที่ประกาศตัดญาติขาดมิตรกันไปแล้ว

พรรคสีส้มได้รับแรงกระแทก ทั้งจากปัจจัยในและภายนอก

กระแสแรก แรงแค้นต่อกรรมการบริหารพรรคสีส้ม ที่ตัดสินใจหนุนพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งมีอุดมการณ์ต่างขั้วกันชัดเจน

แม้กูรูการเมืองหลายคนประเมินว่า ดีลพิสดารอาจกระทบฐานเสียงของพรรคสีส้มบ้าง หากแกนนำพรรค และ สส.ชิงเปิดเกมรุกสร้างความเข้าใจในหมู่สมาชิกพรรค ย่อมดึงเสียงสนับสนุนกลับมาได้

กระแสที่สอง ปรากฏการณ์แม่ทัพบุญสิน ได้ช่วงชิงโหวตเตอร์ ทั้ง Gen X และ Gen Z ออกจากพรรคสีส้มไปเป็นจำนวนมาก

“แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน เป็นนายทหารลูกอีสานขนานแท้ ไม่ได้เป็นนักพูด แต่การแสดงออกถึงความรักชาติอย่างตรงไปตรงมา ซื่อใสไม่เสแสร้ง ได้กลายเป็นจุดขาย และปลุกกระแสคนรักชาติต่อเนื่อง

ช่วงที่มีการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา แกนนำพรรคประชาชน พยายามเสนอแนวคิด “ชาตินิยมแบบก้าวหน้า” เพื่อสะกิดเตือนใจผู้คนไม่ให้ไปหลงใหลได้ปลื้มกับ “ปรากฏการณ์แม่ทัพบุญสิน” จนมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์แม่ทัพบุญสิน กลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงของพรรคสีส้ม เมื่อกระแสคนรักชาติมาแรงราวพายุ