svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

เดินตามธง “ธนาธร” ผ่าทางตัน “ณัฐพงษ์” ฝ่าวิกฤตศรัทธา ยอมทิ้งส้มสุดโต่ง

สงครามความคิด “ณัฐพงษ์” เดินตามธง “ธนาธร” มั่นใจองคาพยพสีส้ม 70 เข้าใจโหวตอนุทิน ยอมเสีย 30 ส้มสุดโต่ง

เดินหน้าตามธง ธนาธร ดีลผ่าทางตันประเทศ ณัฐพงษ์ ฝ่ากระแสต้านโหวตเลือกอนุทิน ไม่สนโปรค่ายสีแดง ยุบสภาทันที

สงครามความคิดในขั้วสีส้มสุดเข้มข้น ร้อยละ 30 แนวร่วมส้มสุดโต่ง ค้านปิดดีลปิศาจ ร้อยละ 70 เชื่อมั่นในแกนนำพรรคประชาชน

ท่ามกลางเกมชิงไหวชิงพริบ ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ในเกมโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคประชาชนกลายเป็นตัวแปรที่สำคัญ

ล่าสุด ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวดับกระแสฟรีโหวตว่า
 

พรรคไม่มีความแตกแยก และจะโหวตให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ เป็นนายกฯ
 

พร้อมกับย้ำว่า
 

กระบวนการตัดสินใจของพรรคได้สิ้นสุดตั้งแต่ตอนที่กรรมการบริหารพรรคได้แถลงข่าว และเซ็นข้อตกลงร่วม(MOA) กับพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว

แหล่งข่าวในพรรคสีส้มเปิดเผยว่า เกมนี้จบไปตั้งแต่วันที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวันนั้น นายใหญ่ค่ายสีแดง พยายามต่อรองเรื่องส่วนตัวที่โยงถึงวันที่ 9 ก.ย.2568

อย่างไรก็ตาม พลันที่แกนนำพรรคสีส้ม แถลงมติโหวตหนุนอนุทิน แต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาลด้วยนั้น ได้มีปฏิกิริยาจากมวลชนถาโถมใส่พรรคอย่างหนักหน่วง

นี่คือบททดสอบอันแหลมคมในวันที่ 5 ก.ย.2568 ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของโหวตเตอร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

จากจำนวน สส. 80 กว่าคน สมัยพรรคอนาคตใหม่ ทะยานไปยังจำนวน 150 กว่าคนสมัยพรรคก้าวไกล จะเพิ่มหรือลดลงในการเลือกตั้งปี 2569 (ตามคำสัญญาของค่ายสีน้ำเงิน)

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงนั้นมาจาก “แนวร่วมสีส้ม” ปีกคัดค้าน ม.112 ทั้งนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเยาวชนสามนิ้ว

สำหรับ “ด้อมส้ม” ทั่วไปก็เคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคประชาชน แม้จะยอมรับแบบกล้ำกลืนฝืนทน แต่ก็เข้าใจบริบทการเมืองหลังแพทองธารหลุดเก้าอี้นายกฯ สังเวยคลิปเสียง

ไม่มีดีลลับดีลปิศาจ
 

ด้วยความรักและหวังดีต่อพรรคสีส้ม “แนวร่วม” และอดีตแกนนำพรรคก้าวไกลบางคนนั้นเสนอว่า ไม่อยากให้พรรคประชาชนเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่องดีลปิศาจ
 

“....คิดว่าสิ่งที่เราเคยบอกว่า ดีลปีศาจ ต้องดูว่า ดีลเพื่อผลประโยชน์ของใคร เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือเราใช้อำนาจที่เรามี ได้รับมอบจากประชาชนหาทางออกให้กับประเทศ ที่สำคัญมากกว่า เชื่อว่าองคาพยพของเราเข้าใจ” หัวหน้าเท้ง กล่าวอย่างมั่นใจ
 

โปรดสังเกตคำว่า “องคาพยพของเรา” นั่นหมายถึงเสียงส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 เข้าใจในสิ่งที่แกนนำพรรคได้ตัดสินใจไปแล้ว
 

“องคาพยพสีส้ม” ร้อยละ 70 คือฐานแห่งการตัดสินใจที่นำไปสู่การทำข้อตกลงทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย แต่ร้อยละ 30 ก็ไม่เห็นด้วย

ปรากฏการณ์ “70-30” เป็นความท้าทายที่น่าสะพรึงกลัวของ “หัวหน้าเท้ง” และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
 

ธนาธร-ปิยบุตร : สองหนุ่มสองมุม
 

ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชายหนุ่มสองคน ต่างสถานะต่างวิถี โคจรมาพบกันในวันที่บ้านเมือง มีสถานการณ์ “รัฐพันลึก”

หากประเทศไทย ไม่มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท และ ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงไม่คิดก่อการสร้างพรรคอนาคตใหม่ 

ธนาธร มีประสบการณ์ในโลกธุรกิจ

“ปิยบุตร” สนใจเรื่องการปฏิวัติ การเปลี่ยนแปลงสังคมมาตั้งแต่สมัยเรียนกฎหมายมหาชนที่ฝรั่งเศส และได้รวมตัวในนามคณะนิติราษฎร์ ได้นำเสนอทางงานวิชาการให้ลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 2549

ตอนเริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตรได้นำทฤษฎีการเมืองของปรัชญาเมธีหลายคนมาประยุกต์ใช้คนแรกคือ อัน โตนิโอ กรัมชี

ตรงกันข้าม “ธนาธร” เติบโตในอาณาจักรธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ได้เห็นอา-สุริยะ เล่นการเมืองกว่า 30 ปี และสมัยพ่อ-พัฒนา ยังชีวิตอยู่ ก็คบค้าสมาคมกับนักการเมืองรุ่นเก๋าหลายคน 

ปิยบุตร ยังสนุกกับงานความคิดแบบหนักๆ

ด้วยเหตุนี้ ธนาธรจึงมีความยืดหยุ่นทางการเมืองมากกว่าปิยบุตร และเข้าใจธรรมชาติการเมืองเก่า จึงปรับจูนแกนนำพรรคประชาชน ที่เน้นความเก๋ามากกว่าความสด อาศัยประสบการณ์ลบจุดอ่อน สส.ใหม่ไร้วุฒิภาวะ

หากจะสรุปว่า “ธนาธร” คือตัวแทนความคิดฝั่งร้อยละ 70 และ “ปิยบุตร” ก็คือตัวแทนความคิดฝั่งร้อยละ 30 ก็ไม่ผิดนัก

เสียดายที่ อาจารย์ป๊อก ปิยบุตร วางมือทางการเมือง หันไปอ่านหนังสือ และท่องเที่ยว จึงไม่ได้อ่านข้อคิดความเห็นอดีตแกนนำนิติราษฏร์ ในวันที่พรรคส้มต้องเลือกอนุทินเป็นนายกฯ