svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

“พล.ท.บุญสิน” จ่อส่งไม้ต่อ “พล.ต.วีระยุทธ” เต็งแม่ทัพภาค 2 ขุนศึกอีสานใต้

แม่ทัพลูกร้อยเอ็ด “พล.ต.วีระยุทธ” เต็งหนึ่งรับไม้ต่อ “พล.ท.บุญสิน” ส่องชีวิต “รองเติ่ง” ขุนศึกพระวิหาร-ภูมะเขือ

นับถอยหลังอีก 40 กว่าวัน พล.ท.บุญสิน เตรียมส่งไม้ต่อ พล.ต.วีระยุทธ เต็งหนึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อนรัก ตท.26 และ จปร.37

เส้นทางนักรบลูกข้าวเหนียว แม่ทัพกุ้ง-สิงห์อีสานเหนือ แม่ทัพเติ่ง-สิงห์อีสานใต้ ผ่านสมรภูมิเขาพระวิหาร และภูมะเขือ ปี 2552 ค่อนข้างชัดว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. จะได้จัดทำโผทหารของกองทัพบก เพื่อสานต่อภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังไม่จบ โดยไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง

โดยเฉพาะตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ต้องมาแทน “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2568

เบื้องต้นมีข่าวว่า “รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งดูสายงานยุทธการและการข่าว จะถูกวางตัวเข้ามารับไม้ต่อจากแม่ทัพกุ้ง ในช่วงต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก

วันที่ 19-20 ส.ค.นี้ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 จะเป็นคนนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จำนวน 8 ประเทศ ลงพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี , ผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และช่องจุ๊ปตะโมก จ.สุรินทร์

ดังที่รู้กัน “รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ เป็นนายทหารเติบโตมาจากหน่วยทหารที่รับผิดชอบชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างจาก “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน ที่รับราชการอยู่ในพื้นที่อีสานเหนือเป็นหลัก 

ในสงคราม 5 วัน บนสมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.พนา และ พล.ท.บุญสิน ปักหลักบัญชาการรบอยู่ที่ ศปก.ในพื้นที่ ส่วน พล.ต.วีรยุทธ บัญชาการรบที่ ศปก.ส่วนหน้าสุด เพื่อสั่งการการรบในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด

“รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ โตมาจาก ร.16 ค่ายบดินทรเดชา ยโสธร

 

แม่ทัพเติ่งคนร้อยเอ็ด

พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ เกิดที่บ้านยางกู่ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย รุ่นที่ 74 “รองเติ่ง” เรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 37 ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นคือ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ และ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง 

พล.ต.วีระยุทธ รับราชการที่กรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร ตั้งแต่ระดับนายร้อยนายพัน จนขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 16 (ผบ.ร.16) ปี 2561

ระหว่างที่ “รองเติ่ง” เป็น ผบ.ร.16 และผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ได้รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ฝั่งตรงข้าม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ของกัมพูชา

ปี 2564 พล.ต.วีระยุทธ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ควบคุมพื้นที่ไทย-กัมพูชา ก่อนจะมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 

วิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568 สมรภูมิรบปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ภูมะเขือ ช่องอานม้า และช่องบก อยู่ภายใต้การควบคุมพื้นที่การรบ โดย ศปก.ส่วนหน้า และศปก.หลัก 

พล.ต.วีระยุทธ มีบทบาทสำคัญใน ศปก.ส่วนหน้า หลังการหยุดยิง มีการประชุม GBC ที่มาเลเซีย “รองเติ่ง” ก็เป็นคีย์แมนคนสำคัญของกองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมประชุมด้วย

 

เส้นทางขุนศึกพระวิหาร

การสู้รบระหว่างทหารไทย-ทหารกัมพูชา เมื่อปี 2552 และปี 2554 “รองเติ่ง” ในฐานะผู้บังคับกองพันทหารราบเฉพาะกิจที่ 161 รับผิดชอบพื้นที่ ตั้งแต่ช่องอานม้า จรดภูมะเขือ 

พลิกแฟ้มข่าว พ.ศ.นั้น ทหารไทย-กัมพูชารบกันเดือดที่ตีนภูมะเขือ และทางขึ้นปราสาทพระวิหาร มีทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บ 7 นาย

วันที่ 6 ก.พ.2552 ทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่ 155 มม. ปูพรมไปทั่วเขตแดน จ.พระวิหาร กัมพูชา ทำให้ถนนและฐานทหารเสียหายมากมาย 

มีรายงานว่า พล.อ.ฮุน มาเนต ขณะที่เป็น รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.กองพลน้อยที่ 70 ได้นำกำลังทหารมาโจมตีทหารไทยที่ภูมะเขือ และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการยิงปืนใหญ่ของทหารไทย

จากวันนั้น พล.ต.วีระยุทธ ครองยศพันโทที่เข้าสู้รบกับทหารกัมพูชา ผ่านมา 16 ปี “รองเติ่ง” ก็ยังต้องมาเผชิญหน้ากับขุนศึกเขมรคนหน้าเดิมอย่าง พล.อ.สรัย ดึก และ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง

พล.ต.วีระยุทธ ในฐานะ ผบ.กองกำลังสุรนารี