เคลื่อนทัพ “สมรังสี” รวมใจเขมรนอกโค่น “ฮุนเซน” โทษฐานพาชาติพ่ายสยาม

12 สิงหาคม 2568 โลกล้อมกัมพูชา สม รังสี เปิดหน้าชน ฮุน เซน เคลื่อนทัพประชาธิปไตยในต่างแดน ปกป้องอธิปไตย กู้ศักดิ์ศรีทหารรากหญ้า

สม รังสี คู่แค้น ฮุน เซน ฉวยจังหวะศึกไทย-กัมพูชา เดินเกมชาตินิยมคู่ขนานประชุมสภาต่อต้านฯ วางยุทธศาสตร์โค่นระบอบฮุนเซน

อันเนื่องจากการสู้รบไทย-กัมพูชา ทำให้ชื่อ สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) กลับมาอยู่ในกระแสการเมืองกัมพูชาอีกครั้ง เมื่อเขาเปิดหน้าชนสมเด็จฮุน เซน ผู้มากบารมีแห่งพรรคประชาชนกัมพูชา(CPP)

เมื่อ สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา (Cambodia National Resistance Council -CNRC) นำโดย สม รังสี ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยความจริงที่ประชาชนควรรู้

1.พื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาควบคุมได้หลังหยุดยิง

2.จำนวนทหารและพลเรือนที่เสียชีวิต-บาดเจ็บ

3.จำนวนครอบครัวที่ต้องอพยพ 

4.จำนวนแรงงานที่กลับจากไทย พร้อมย้ำให้รัฐบาลฮุน มาเนต ต้องมีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา จ้างงาน และบรรเทาหนี้สิน

สม รังสี ยังเปิดแคมเปญรณรงค์ #TruthExpose มีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับทหารแนวหน้าที่สละชีวิต

ช่วงสงคราม 5 วัน แกนนำ CNRC ที่อยู่ในต่างประเทศ ต่างแสดงออกถึงความรักชาติทำนอง “เขมรนอก-เขมรใน” รวมใจเป็นหนึ่ง และสนับสนุนทหารในแนวหน้า

ตอนแรก สม รังสี พยายามสื่อสารถึง สมเด็จฮุน เซน ร้องขอให้ปล่อยตัว เขม สกคา อดีตหัวหน้าพรรค CNRP ซึ่งถูกศาลสั่งจำคุก 21 ปี โทษฐานก่อกบฏล้มล้างรัฐบาลฮุนเซน เพื่อสร้างความปรองดองต่อสู้ผู้รุกราน

ดูเหมือนสมเด็จฮุน เซน จะไม่สนใจข้อเสนอขออดีตผู้นำฝ่ายค้าน จึงทำให้สม รังสี ลุกขึ้นมาวิพากษ์ฮุน เซน กรณีปกปิดข้อมูลทหารเสียชีวิต

ที่สำคัญ ทหารกัมพูชาที่พลีชีพในสมรภูมิรบส่วนใหญ่เป็นทหารท้องถิ่นต่างจากทหารหน่วยองครักษ์ BHQ ที่ไม่ได้ออกรบในแนวหน้า 

แกนนำสภาต่อต้านฯ หลายคนได้ใช้เฟซบุ๊ก เสนอภาพเปรียบเทียบทหารรากหญ้าสวมรองเท้าแตะ กับทหาร BHQ กองทัพส่วนตัวของฮุน เซน

อีกด้านหนึ่ง “เขมรนอก” ได้ใช้โซเชียลเป็นสื่อกลางระดมทุนช่วยเหลือทหารรากหญ้า ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้กับครอบครัวทหารที่ติดต่อญาติ(ทหารในแนวหน้า)ไม่ได้

เขมรนอกรวมใจเขมรใน
 

สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา (CNRC) เป็นองค์กรที่คนกัมพูชาพลัดถิ่นหรือ “เขมรนอก” รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นมา เพื่อนำกัมพูชากลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ

มู ซกฮัว อดีตรองหัวหน้าพรรค CNRP ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งองค์กร CNRC ร่วมกับ สม รังสี ที่พำนักอยู่ที่ฝรั่งเศส

17 ปีที่แล้ว มู ซกฮัว และ เขม สกคา ชาวกัมพูชาที่ได้สัญชาติอเมริกัน เดินทางกลับมาตุภูมิ ไปร่วมกันก่อตั้งพรรคสิทธิมนุษยชน โดยการสนับสนุนของสหรัฐฯ

หลังจากนั้น พรรคสิทธิมนุษยชน ควบรวมกับพรรคสมรังสี กลายเป็นพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นความหวังใหม่ของคนเขมร

ในที่สุด สมเด็จฮุน เซน ใช้นิติสงครามไล่บี้ สม รังสี จนหนีออกนอกประเทศ ตามแผนขจัดคู่แข่งคู่แค้น

เขม สกคา หัวหน้าพรรค CNRP ต่อจาก สม รังสี ถูกจับข้อหากบฏ สมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐฯ กระทำการอันเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาล ตามมาด้วยการยุบพรรค CNRP ในปี 2561 

ปีเดียวกันนั้น มู ซกฮัว และ สส.พรรค CNRP นับสิบคน ต้องหนีตายเข้าเมืองไทย ก่อนจะเดินทางไปสหรัฐฯ


 

ยุทธการกราบแผ่นดินยกสอง
 

นับแต่หนีออกไปปักหลักอยู่ต่างประเทศ สม รังสี และ มู ซกฮัว ก็ยังหวังที่จะได้กลับกัมพูชา เหมือนกรณียุทธการ “กราบแผ่นดิน” ปี 2562

ตอนนั้น สม รังสี ใช้แฟนเพจ Sam Rainsy เป็นกระบอกเสียงแจ้งต่อชาวกัมพูชาว่า “วันเสาร์ที่ 9 พ.ย.2562 ฉันจะหาทางกลับสู่กัมพูชา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ยุทธการบุกเขมรของ สม รังสี นั้น อดีตแกนนำพรรค CNRP มีแผนปลุกระดมแรงงานเขมรในไทย เดินเท้าไปยังด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อนำพาตัวเขา และอดีต สส.พรรค CNRP กลับกัมพูชา

มีแรงงานเขมรมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มเล็กๆ ในย่านรังสิต และปากน้ำเตรียมความพร้อมที่จะเดินนำหน้าพาสม รังสี กลับไปกราบแผ่นดินเขมรตามที่วางเป้าหมายไว้

สม รังสี เดินทางจากฝรั่งเศสถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 8 พ.ย.2562 แต่ก็ออกจากสนามบินไม่ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สมัยนั้น ได้ผลักดันให้ สม รังสี ออกจากประเทศไทยไปตั้งหลักที่มาเลย์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2568 มู ซกฮัว และสม รังสี ประชุมผ่านระบบ Zoom ร่วมกับแกนนำสภาต่อต้านฯ ได้หารือเกี่ยวกับสาเหตุความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับไทย พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์โค่นระบอบฮุนเซน