svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

รู้จัก "รูเบน อโมริม" เต็ง 1 กุนซือใหม่หงส์แดง

29 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทำความรู้จักกับ "รูเบน อโมริม" กุนซือดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการฟุตบอลยุโรป ที่ล่าสุดกลายเป็นเต็ง 1 ในตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล

จากการที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมนี ประกาศขอก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากจบฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุผลว่าหมดพลังงานที่จะทำสิ่งเดิมๆซ้ำๆอีกต่อไป

หลังจากนั้น เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) เจ้าของทีม ลิเวอร์พูล ก็ได้เริ่มกระบวนการผู้ที่จะมานำพาสโมสรก้าวไปข้างหน้า เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้ง ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร ขึ้นเป็น ซีอีโอฟุตบอล ตามมาด้วยการแต่งตั้ง ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผอ.กีฬาของ บอร์นมัธ ให้มาเป็นผอ.คนใหม่ของทีม โดยจะเริ่มงานในเดือน พ.ค.นี้

ทันทีที่มีการแต่งตั้งบุคลากรระดับสูงเรียบร้อยแล้ว ลิเวอร์พูล ก็เริ่มเข้าสู่การสรรหาตัวผู้จัดการทีมที่จะเข้ามาสานงานต่อจาก คล็อปป์ โดยตอนแรกมีรายงานว่า บอร์ดบริหารต้องการตัว ชาบี้ อลอนโซ่ อดีตกองกลางของทีมที่ปัจจุบันคุมทัพ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่ก็ต้องแย่งกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่อยากได้ไปเป็นกุนซือในฤดูกาลหน้าเช่นกัน

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า ชาบี้ อลอนโซ่ ตัดสินใจขอทำงานคุมทัพ "ห้างขายยา" ต่อไป เนื่องจากมองว่าตัวเองยังไม่พร้อมและมีประสบการณ์ไม่มากพอที่จะก้าวขึ้นไปคุมทีมยักษ์ใหญ่ระดับ ลิเวอร์พูล หรือ บาเยิร์น ได้

ด้วยเหตุนี้ "หงส์แดง" จึงจำเป็นต้องมองหาตัวกุนซือรายใหม่ โดยสื่อในอังกฤษหลายสำนักรายงานตรงกันว่า "รูเบน อโมริม" โค้ชวัย 39 ปีของทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในโปรตุเกส คือเป้าหมายล่าสุดของบอร์ดบริหารลิเวอร์พูล

รู้จัก "รูเบน อโมริม" เต็ง 1 กุนซือใหม่หงส์แดง เส้นทางอาชีพนักฟุตบอล
รูเบน อโมริม เคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับสโมสร แอตเลติโก้ คัลเจอรัล, เบนฟิก้า และเบเลเนนเซส ซึ่งสโมสรสุดท้ายนี้เองที่ อโมริม พัฒนาฝีเท้าจนสามารถคว้าสัญญาอาชีพฉบับแรกมาได้สำเร็จ

อโมริม ลงประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพนัดแรก ในเกมที่เบเลเนนเซส เจอกับ อัลเวอร์ก้า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2003 แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าตัวก็เป็นเพียงอะไหล่เสริมของทีมเท่านั้น มีเพียงซีซั่น 2007-08 ที่ได้ขึ้นมาเป็นตัวจริงแบบเต็มตัว เบ็ดเสร็จได้ค้าแข้งให้ทีมไป 96 นัดตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาล

เดือน เม.ย. 2008 อโมริม ตกลงย้ายไปร่วมทีม เบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส แต่ก็ไม่สามารถแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงได้ จนต้องย้ายมาอยู่กับ บราก้า แบบยิมตัว ในปี 2011 ซึ่งเมื่อกลับสู่ เบนฟิก้า สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมยังโชคร้ายบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า แม้จะหายเจ็บและย้ายไปเรียกความฟิตกับทีม อัล วาคราห์ ในกาตาร์ แต่อาการเจ็บที่หัวเข่าก็กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง จนสุดท้าย อโมริม ต้องตัดสินใจขอยกเลิกสัญญากับ เบนฟิก้า และแขวนสตั๊ดในที่สุด

รู้จัก "รูเบน อโมริม" เต็ง 1 กุนซือใหม่หงส์แดง เบนเข็มสู่การเป็นโค้ช
หลังแขวนสตั๊ด อโมริม เข้าร่วมอบรมการเป็นโค้ชกับสมาคมฟุตบอลเมืองลิสบอน และเริ่มทำงานเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสร คาซ่า เปีย ในดิวิชั่น 3 แต่ทำได้ไม่นานก็ลาออกเนื่องจากมีปัญหาใบอนุญาตโค้ช ก่อนจะมาได้งานใหม่ด้วยการไปเป็นโค้ชทีมสำรองของ บราก้า ในเดือน ก.ย. 2019

ต่อมา บราก้า เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อ ริคาร์โด้ ซา ปินโต้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ อโมริม จึงได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นกุนซือคนใหม่ของสโมสร 

ในเวลานั้น บราก้า รั้งอันดับ 8 ของลีก แต่เมื่อได้ อโมริม เข้ามา เขาก็พลิกสถานการณ์จนพาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้สำเร็จ จากการโค่นยักษ์ใหญ่อย่าง เอฟซี ปอร์โต้ ในรอบชิงชนะเลิศ โดยใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่

ด้วยผลงานที่โดดเด่นในการเป็นโค้ชแม้เพิ่งได้คุมทัพให้ บราก้า แค่ 2 เดือน รวม 13 นัดเท่านั้น แต่ก็ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอมเสี่ยงครั้งสำคัญด้วยการจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่าถึง 10 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัว อโมริม ไปเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ นับเป็นสถิติค่าตัวผู้จัดการทีมที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลโปรตุเกสทีเดียว
รู้จัก "รูเบน อโมริม" เต็ง 1 กุนซือใหม่หงส์แดง
กุนซือดาวรุ่งแห่งยุโรป
รูเบน อโมริม ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในวันที่ 4 มี.ค. 2020 และก็ช่วยให้ สปอร์ติ้ง ที่ย่ำแย่มาตลอด ขยับขึ้นมาจบอันดับ 4 คว้าตั๋วลุยศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จ 

จากนั้นในฤดูกาล 2020-21 อโมริม ก็สร้างความฮือฮาด้วยการพา สปอร์ติ้ง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีกสูงสุดและลีกคัพ โดยเฉพาะในลีกที่เป็นการได้แชมป์สมัยแรกในรอบ 19 ปีของสโมสรทีเดียว 

ซีซั่นถัดมา (2021-22) สปอร์ติ้ง ก็ยังคว้าแชมป์บอลถ้วยได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ผลงานในลีกนั้นจบที่ตำแหน่งรองแชมป์ จากนั้นในซีซั่น 2022-23 ผลงานในลีกของพวกเขาเริ่มตกต่ำลงไปเนื่องจากการเสียผู้เล่นสำคัญๆไปหลายราย ทั้ง นูโน่ เมนเดส, ชูเอา ปาลินญ่า และ มาเธอุส นูนเญซ ทำให้จบแค่อันดับ 4 เท่านั้น

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลปัจจุบัน สปอร์ติ้ง กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงอีกครั้ง และมีการพูดกันว่าทีมมีสไตล์การเล่นที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ อโมริม เข้ามากุมบังเหียนเลยก็ว่าได้ โดยปัจจุบันทีมรั้งจ่าฝูงของลีกด้วยการแพ้แค่ 2 จาก 25 เกม และยิงประตูได้ถึง 75 ลูกทีเดียว
รู้จัก "รูเบน อโมริม" เต็ง 1 กุนซือใหม่หงส์แดง
ได้เวลาสู่ก้าวต่อไป?
จากผลงานตลอดหลายปีหลัง รวมถึงข่าวลือล่าสุดเกี่ยวกับการได้รับความสนใจจากหลายๆทีม ทำให้สื่อในโปรตุเกสต่างมองว่า น่าจะถึงเวลาแล้วที่ อโมริม จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นในเส้นทางอาชีพโค้ช ด้วยการย้ายไปคุมทีมใหญ่ๆในยุโรป

จุดแข็งของ อโมริม อยู่ที่การบริหารคน เขาเก่งมากในการสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างทีม เป็นจิตวิญญาณแห่งความสามัคคีที่ดี บรรดาสื่อมวลชนบอกว่าไม่มีใครเคยได้ยินเขาวิจารณ์นักเตะของตัวเองโดยตรงเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ขณะที่ในด้านแท็กติกก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดย อโมริม ยึดมั่นกับระบบ 3-4-3 ซึ่งเป็นระบบที่ปรับเปลี่ยนได้ทั้งเกมรับและเกมรุกด้วยการยืนตำแหน่งของวิงแบ็กทั้งสองข้าง ดังนั้นหากเขาได้มาคุมทีม ลิเวอร์พูล ระบบนี้อาจจะเหมาะสมก็เป็นได้เพราะ หงส์แดง มีนักเตะที่เล่นตำแหน่งนี้ได้อย่างโดดเด่นหลายต่อหลายคนอยู่แล้ว

จริงอยู่ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา อโมริม ใช้เวลาเกือบทั้งอาชีพกับการอยู่ในโปรตุเกส (ตอนนี้ก็เช่นกัน) แต่สำหรับการทำงานในโปรตุเกสแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องได้รับความสนใจจากลีกใหญ่ ดังนั้นเมื่อโค้ชเริ่มทำผลงานได้ดี การย้ายไปต่างประเทศอาจเป็นก้าวต่อไปที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม หากสปอร์ติ้งได้แชมป์ พวกเขาจะเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า บางทีนั่นอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ อโมริม อยู่ที่สปอร์ติ้งต่อไปอีกปีก็เป็นได้ แต่มันก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนนักเตะที่เหลืออยู่ด้วย เพราะหลังจบซีซั่นนี้คาดว่าเหล่าดาวรุ่งที่ปลุกปั้นมาหลายปีน่าจะถูกขายออกจากทีมกันอีกมาก ดังนั้น อโมริม อาจเลือกย้ายออกก็ได้หากทีมที่เขาสร้างมานั้นไม่เหลือตัวหลักอยู่แล้ว

logoline