พาไปกันที่ วัดอัมพวัน ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ชม "นกเค้าโมง" หรือ "นกเค้าแมว" ที่เข้ายึดรังเทียมเป็นที่อาศัย
โดยก่อนหน้านี้ นายชัยวัฒน์ มนตรีชัยวิวัฒน์ จากชมรมอนุรักษ์นกแก้วโม่งวัดสวนใหญ่ ได้นำรังเทียมเหล่านี้มาติดตั้งไว้บนต้นยางนา ที่มีอยู่ 2 ต้น ภายในวัดอัมพวัน เพื่ออนุรักษ์และเป็นรังทางเลือกให้นกแก้วโม่ง จับคู่ผสมพันธุ์และยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป
รู้จัก "นกเค้าโมง"
สำหรับ "นกเค้าโมง" หรือ "นกเค้าแมว" (Asian barred owlet) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Glaucidium cuculoides เป็นนกเค้าขนาดเล็กชนิดหนึ่ง มีลายสีน้ำตาลทั่วทั้งตัว ด้านใต้ของลำตัวเป็นสีขาว และมีลายสีขาวในแนวตั้งลากยาวขึ้นมาที่บริเวณอกอย่างไม่เป็นระเบียบ ส่วนม่านตามีสีเหลือง
ในวัยเล็กนักชนิดนี้จะมีลวดลายบนหัวเป็นจุดคล้ายกับ "นกเค้าแคระ" (G. brodiei) ซึ่งเป็นนกในสกุลเดียวกัน และเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่เล็กที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย
นกเค้าโมง มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชียใต้ จนถึงเอเชียอาคเนย์และเอเชียตะวันออก พวกมันสามารถปรับตัวให้อยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งป่าทึบที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1,980 เมตร รวมถึง สวนสาธารณะในเมืองใหญ่ และสวนผลไม้
ในช่วงกลางวัน บางครั้งนกเค้าโมงก็ปรากฏตัวให้เห็น โดยอาจเกาะพักตามกิ่งไม้โล่ง รวมถึง เสาไฟและสายโทรศัพท์ พวกมันเลยเป็นนกจำพวก "นกเค้าแมว" อีกชนิดหนึ่ง ที่เราเจอตัวได้บ่อยรองมาจากผู้พิทักษ์มือวางอันดับหนึ่งในเขตเมืองอย่าง "นกแสก" (Tyto alba) (นกแสกกินหนูเป็นอาหาร มีบทบาทช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ)
สำหรับในประเทศไทย พบนกเค้าโมงได้ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ตอนล่างและภาคกลางตอนล่าง
พฤติกรรมที่ทำให้ได้ชื่อว่า "นกเค้าโมง"
เจ้าสัตว์มีปีกตัวเล็กอย่าง นกเค้าโมง มีเสียงร้องคล้าย "อวู้ อุอู้ อุอู้ อุอู้-อุอู้..." (ช่วงท้ายรัวเร็ว) นอกจากนี้ มันยังร้องได้หลายเสียง หลายทำนอง มักส่งเสียงร้องในเวลากลางคืนเป็นหลัก โดยตอนกลางคืนพวกมันจะร้องเป็นครั้งคราวคล้ายกับจะบอกโมงยาม ด้วยเหตุนี้เองเลยได้ชื่อว่า "นกเค้าโมง" และยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพุทธศักราช 2535 ด้วย
ภาพโดย : โสภน สุเสนา
ขอบคุณข้อมูลจาก :
ebird.org
ด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์
www.lowernorthernbird.com
คู่มือดูนกหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย และหนังสือนกในเมืองไทย เล่ม 2 รศ.โอภาส ขอบเขตต์
วิกิพีเดีย