svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า อันตรายแค่ไหน อาการที่บ่งบอกมีอะไรบ้าง

29 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" วันนี้ "Nation STORY" ขอพาไปรู้จัก "โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน" หรือ "โรคเนื้อเน่า" หากเป็นแล้วจะอันตรายแค่ไหน อาการที่บ่งบอกมีอะไรบ้าง พร้อมกางปัจจัยเสี่ยง และวิธีป้องกัน

หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้าง สำหรับโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า หลังประเทศญี่ปุ่นพบจำนวนคนติดเชื้อแบคทีเรียชนิดร้ายแรง "สเตรปโตคอคคัส กลุ่มเอ" ซึ่งก่อให้เกิดโรคนี้ เพิ่มสูงถึง 517 ราย นับว่าสูงกว่า 5 ปีก่อน ถึง 4 เท่า 

ผู้เขียนขอนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ จากเว็บไซต์ รพ.วิภาวดี และ รพ.พญาไท ซึ่งมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ มาเล่าให้อ่านกัน 
โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า อันตรายแค่ไหน อาการที่บ่งบอกมีอะไรบ้าง โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า (Necrotizing Fasciitis) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่เนื้อเยื้อใต้ผิวหนัง อาทิ ไขมันใต้ผิวหนัง ผังผืดและกล้ามเนื้อ จะมีความรุนแรงมาก อันตรายถึงชีวิต หากรักษาไม่ทัน เพราะเชื้อจะทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อที่มักพบบ่อยที่แขนขา บริเวณฝีเย็บ และลำตัว มักมีประวัติได้รับอุบัติเหตุ ไปเที่ยวทะเล ถูกก้างปลาตำ

เชื้อที่เป็นสาเหตุ

  • เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Streptococcus เมื่อเชื้อเข้าสู่เนื้อเยื่อ โดยผ่านทางแผลที่ผิวหนัง เชื้อจะเจริญอย่างรวดเร็วและหลั่งสารพิษ (Toxin) ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อ มีผลทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นไม่พอทำให้กล้ามเนื้อตาย และเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดและลามไปทั่วร่างกาย

แล้วแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายคนได้อย่างไร

  • โรคเนื้อเน่า เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้าเปล่า ลุยโคลน โดนเปลือกหอย หรือเศษไม้ตำเท้า เศษแก้วบาด โดยเชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ทั้งทาง "ผิวหนัง" หรือ "กระแสเลือด" ผ่านทางแผลที่ถูกบาด แผลถลอก รอยข่วน แมลงกัดต่อย บาดแผลไฟไหม้ รวมทั้ง การใช้เข็มฉีดยา หรือแผลผ่าตัด หากไม่ได้ดูแลรักษาแผลให้ดี ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

อาการของโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน

  • ไข้สูง หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน เหงือออก เป็นลม ช็อกหมดหมดสติ

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า อันตรายแค่ไหน อาการที่บ่งบอกมีอะไรบ้าง
อาการของโรคแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดโรค

  • อาการของโรควันที่ 1-2 มีอาการปวดบริเวณที่เกิดโรค บวม และแดง ลักษณะจะคล้ายกับผิวหนังอักเสบหรือไฟลามทุ่ง แต่โรคเนื้อเน่าเกิดในชั้นลึกกว่านั้นซึ่งมองไม่เห็น อาการปวดจะรุนแรงมากขึ้นซึ่งไม่สอดคล้องกับอาการทางผิวหนังที่ตรวจพบ ไม่ตอบสนองต่อยาปฎิชีวนะ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัวหัวใจเต้นเร็ว มีลักษณะอาการขาดน้ำ
  • อาการของโรควันที่ 2-4  พบว่าบริเวณที่บวมจะกว้างกว่าบริเวณผิวหนังที่แดง มีผื่นผุพองซึ่งบ่งบอกว่าผิวหนังขาดเลือด และมีเลือดออก ผิวมีสีออกคล้ำเนื่องจากผิวหนังเริ่มตาย เมื่อกดผิวจะพบว่าแข็งไม่สามารถคลำขอบของกล้ามเนื้อได้ อาจจะคลำได้กรอบแกรบใต้ผิวหนัง เนื่องจากเกิดแก๊สใต้ผิวหนัง
  • อาการของโรควันที่ 4-5 จะมีความดันโลหิตต่ำ และมีภาวะโลหิตเป็นพิษ ผู้ป่วยจะไม่ค่อยรู้สึกตัว

อาการแทรกซ้อน

อัตราเสียชีวิตจะสูง เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ การติดเชื้ออาจจะทำให้เส้นประสาท กล้ามเนื้อและหลอดเลือดถูกทำลาย อาจจะต้องตัดอวัยวะทิ้ง

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเนื้อเน่า

  • ผิวหนังมีแผลจากแมลงกัดต่อย อุบัติเหตุถูกของมีคมตำหรือบาด แผลผ่าตัด
  • มีโรคประจำตัว เช่น ติดสุรา ติดยาเสพติด โรคตับ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง วัณโรค
  • อาจเกิดหลังจากป่วยเป็นโรคไข้สุกใส
  • มีการใช้ยา Steroid

กลุ่มเสี่ยงต่อภาวะโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน

  • พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ เกษตรกรดำนาไม่สวมใส่รองเท้า มีบาดแผลตามร่างกายและได้รับสิ่งสกปรกเข้าไป
  • กลุ่มผู้ที่ใช้ยา Steroid
  • กลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง อาจเกิดหลังจากป่วยเป็นโรคไข้สุกใส
  • กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว เช่น ติดสุรา ติดยาเสพติด โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง วัณโรค เป็นต้น
  • กลุ่มผู้ที่มีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ แล้วไม่มีการทำความสะอาดดูแลแผลให้ดี หรือไม่ถูกต้องจนการติดเชื้อลุกลาม

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือ โรคเนื้อเน่า อันตรายแค่ไหน อาการที่บ่งบอกมีอะไรบ้าง
บริเวณที่ติดเชื้อได้ง่าย

  • โรคเนื้อเน่าเกิดกับส่วนใดๆของร่างกายก็ได้ แต่พบบ่อยที่แขน / ขา บริเวณฝีเย็บและลำตัว
  • มักจะมีประวัติได้รับอุบัติเหตุ ไปเที่ยวทะเลถูกก้างปลาตำ

การรักษา

มาพบแพทย์โดยด่วนเพื่อวินิจฉัยให้เร็ว และผ่าตัดเอาเนื้อที่ตายหรือเนื้อที่ติดเชื้อออกให้มากที่สุด ผ่าตัดเพื่อระบายเอาหนองออก และตัดเนื้อเยื่อที่ตาย หากติดเชื้อรุนแรงอาจจำเป็นต้องตัดอวัยวะนั้นออก

การป้องกันโรค

การดูแลแผล การดูแลแผลจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเนื้อเน่า

  • เมื่อเกิดแผล รีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดทันที
  • ทำความสาดแผลทุกวัน และใช้อุปกรณ์ทำแผลที่สะอาด
  • ระหว่างที่มีแผลควรหลีกเลี่ยงการใช้สระน้ำ และอ่างอาบน้ำร่วมกัน
  • ล้างมือทุกครั้งก่อนแหละหลังสัมผัสแผล
  • หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที เพื่อตรวจรักษาอาการต่อไป
  • หากมีไข้ ปวด บวม แดง แสบร้อน บริเวณที่เป็นแผล ควรรีบพบแพทย์ทันที
  • สำหรับเกษตรกรที่ดำนา หากมีแผลตามร่างกาย ไม่ควรลุยโคลนด้วยเท้าเปล่า ควรดูแลบาดแผลให้สะอาดถูกสุขอนามัย และใส่ยาปฏิชีวนะรักษาแผลตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ คุณหมอจากคลินิกผิวหนัง โรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งเขียนบทความสุขภาพ ให้ความรู้เกี่ยวกับ โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน ยังระบุด้วยว่า โรคนี้ เป็นโรคที่พบไม่บ่อยนัก หากเป็นคนแข็งแรง มีภูมิต้านทานปกติ และมีวิธีดูแลแผลอย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสน้อยที่จะเป็นโรคนี้ 

แต่หากมีภาวะความเสี่ยงจะเป็นขั้นรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพราะเชื้อจะเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และกล้ามเนื้อในร่างกาย อาจเกิดอันตรายถึงกับชีวิตได้


ขอบคุณข้อมูลจาก : 
www.vibhavadi.com
www.phyathai.com
https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/health/571870

logoline